เปิดวิสัยทัศน์..ดร.สุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่ากนอ. คนที่ 13

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ. แต่งตั้ง ดร.สุเมธ ตั้งประเสริฐ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าการคนใหม่ พร้อมชูนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ 3 ปฏิรูป ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ดร.สุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ. เปิดโอกาสให้ Answer News Industrial Magazine ร่วมแสดงความยินดีในโอกาสขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. คนที่ 13 พร้อมสัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ คือ 3 ปฏิรูป 1.การจัดการกาก สารพิษ ที่ทำร้ายส่งผลต่อประชาชน กนอ.มีเป้าหมายปรับปรุงการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมทั้งระบบ เพิ่มโทษทางกฎหมาย 2.Save อุตสาหกรรมไทย การสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันสำ สำ หรับ SMEs โดยการบังคับใช้กฎหมายกับสินค้าต่างชาติที่ไม่ได้มาตรฐานที่ทะลักเข้ามาในประเทศไทย ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย และ 3.การสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ รองรับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ส่งเสริมเทคโนโลยี นวัตกรรม และความรู้ เชื่องโยงภาค SME กับภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

นอกจานี้ ยังยึด 3 แนวทาง ประกอบด้วย 1.การสร้างความร่วมมือ พันธมิตร สร้างห่วงโซ่อุปทาน อำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนและเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมไทย 2.การจัดตั้งกองทุนเพื่อการปฏิรูประบบอุตสาหกรรม เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการปรับปรุงระบบอุตสาหกรรมในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมให้มีความทันสมัยและแข่งขันได้ในระดับสากล ทั้งนี้จะนำ นำ แนวคิดเรื่อง "New Economy Business Unit" ที่จะเปิดพื้นที่ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมออกแบบและบูรณาการโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เช่น ระบบการจัดการ Carbon Credit, การบริหารจัดการน้ำ พลังงาน และ Utility อื่น ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากโครงสร้างพื้นฐานเดิม 3.การปรับกฎหมายและภารกิจเข้าสู่ภาครัฐดิจิทัล สร้าง Ease of Doing Business การนำ Regulatory Sandbox มาปรับใช้เพื่อลดความซับซ้อนของกฎหมายและกระบวนการขอใบอนุญาตต่าง ๆ รวมถึงการนำ นำ AI และระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ในการตรวจสอบและอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอน เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วและโปร่งใส ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการสร้าง ‘Ease of Doing Business’ หรือความสะดวกในการประกอบธุรกิจ

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน กนอ. ดร.สุเมธ กล่าวว่า พันธกิจหลักๆ เปลี่ยนบทบาทของ กนอ. สู่ การเป็นแพลตฟอร์มขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต ใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม ร่วมมือสถาบันการศึกษา พัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพเข้าสู่นิคมฯ โดย กนอ. ต้องเป็นมากกว่าแค่ผู้พัฒนาที่ดินอุตสาหกรรม แต่ต้องกลายเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงโลกของการลงทุน เทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้าด้วยกัน สะดวก รวดเร็ว เข้าถึง เป็นที่พึ่งของภาคอุตสาหกรรม ผ่าน นโยบาย I-EA-T RAPID ดังนี้

R - Regulatory Flexibility: ปลดล็อกกฎระเบียบเพื่อความเร็วและความยืดหยุ่น

A - Advanced Infrastructure: ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภค

P - Productivity through Innovation การเพิ่มผลิตภาพโดยนวัตกรรมร่วมกับทุกภาคส่วน

I - Integrated Digital Transformation การเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ระบบดิจิทัลแบบครบวงจร

  D - Driving Growth & Sustainability: ขับเคลื่อนการเติบโตบนฐานความยั่งยืน

ส่วนมาตรการในการดึงดูดนักลงทุนเข้าในไทย เพื่อเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการไทย นั้น ทาง กนอ. มีหลายมาตรการที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน ทั้งในด้านการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและการลดขั้นตอนในการยื่นคำขออนุมัติอนุญาตต่างๆ ตลอดจนการมุ่งเน้นการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนและการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ กนอ. ได้มีการร่วมมือกับหน่วยงานด้านการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเสริมสร้างความสะดวกในการขออนุมัติและการเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติพบปะกับผู้ประกอบการไทยและเกิดการต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ในนิคมอุตสาหกรรมร่วมกันต่อไป โดย กนอ. มีพื้นที่ศักยภาพ และมาตรการดึงดูดนักลงทุน/โอกาสในการลงทุน

โดยพื้นที่ที่ได้รับความนิยมในการลงทุนของประเทศไทย ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้สะดวกต่อการขนส่งและการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยในปัจจุบันพื้นที่ภาคตะวันออกรายได้มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นกว่าพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ดึงดูดนักลงทุนจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามแนวโน้มขยายตัวนั้นค่อนข้างจำกัด เนื่องจากราคาที่ดินที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำเลที่มีศักยภาพเริ่มหายากขึ้น ในส่วนพื้นที่ภาคกลางรายได้ยังเติบโตได้ดีจากค่าบริการสาธารณูปโภค และค่าเช่า เพราะความได้เปรียบทางด้านพื้นที่และการคมนาคม และในส่วนนิคมฯ พื้นที่อื่นๆ รายได้มีแนวโน้มทรงตัว ดังนั้น กนอ. จึงได้ศึกษาพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อรองรับการลงทุนอีก เช่น อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพรวมถึงยังมีแผนศึกษาจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) และนิคมยางภาคใต้ ตลอดจนการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อีกด้วย

อีกทั้ง การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสีเขียว กนอ. มุ่งเน้นการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสะอาดและมีความยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ การให้บริการสาธารณูปโภคสีเขียว (Green Utility) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและพัฒนาระบบการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนสำหรับนิคมฯ และโรงงานในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับประเทศไทย เพื่อรองรับการลงทุนและส่งเสริมธุรกิจสีเขียวต่อไปในอนาคต

“การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นพื้นที่พิเศษที่รองรับอุตสาหกรรมเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่สนใจความรับผิดชอบ และมีความเข้าใจว่าการที่มี กนอ. ก็เพื่อให้สามารถกำกับและดูแลได้อย่างเต็มที่ โดยสิ่งที่อยากจะฝากถึงผู้ประกอบการ กนอ. ไม่ใช่ผู้ที่ดูแลเรื่องกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่อันที่จริงเรามีความเข้าใจผู้ประกอบการมากที่สุด ควบคู่การส่งเสริมให้ดำเนินการอย่างถูกกฎหมาย พร้อมกับส่งเสริมในด้านการดำเนินการธุรกิจได้ดี ฉะนั้น การที่เข้ามาอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรม ย่อมดีกว่าอยู่นอกระบบ เนื่องจากเรามีคนดูแลอย่างละเอียดอ่อน และมีความเข้าใจผู้ประกอบการ มากกว่าอุตสาหกรรมจังหวัด รวมถึงมีบริการ One Stop Service ที่จะทำให้ผู้ประกอบการอยู่ด้วยอย่างสบายใจ ไม่ยุ่งยาก

ส่วนกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ทาง กนอ. บริหารจัดการปัญหาที่เข้ามา เนื่องจากธุรกิจอุตสาหกรรมในประเทศไทยหลายท่านมองว่าไม่ค่อยเติบโตมากที่ควร แต่อันที่จริงแล้ว อุตสาหกรรมของบ้านเราเติบโตอย่างต่อเนื่องตามอัตราส่วน และสิ่งหนึ่งที่ กนอ. จับตาอยู่คือ จะทำอย่างไรให้ต่างประเทศเข้าใจกับปัญหาของเมืองไทยให้มากที่สุด โดยเราต้องมีการสื่อสารกับต่างประเทศให้มากที่สุดตามไปด้วย เพื่อให้กลุ่มนักลงทุนเหล่านี้สามารถดำเนินการธุรกิจได้อย่างราบรื่น การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะเป็นตัวเชื่อมสิ่งเหล่านี้ พร้อมที่จะดูแลเรื่องกฎหมายไทย ดูแลการบริหารจัดการให้ถูกต้อง ฉะนั้น กนอ. เอง พร้อมที่จะเป็นระบบเปิดประตูให้กับนักลงทุนต่างประเทศที่สามารถเข้ามาปรึกษาได้ง่ายขึ้น สามารถดำเนินการได้ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นสิ่งที่สำคัญที่ทาง กนอ. อยากจะดำเนินการ” ดร.สุเมธ กล่าวปิดท้าย