top of page

“สหวัฒนาพลาสติก” โชว์ Green Industry ตอกย้ำการขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียว

  • รูปภาพนักเขียน: answernewsonline
    answernewsonline
  • 1 ส.ค. 2566
  • ยาว 2 นาที

ree

สหวัฒนาพลาสติก คว้ารางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 ระบบสีเขียว (Green Industry Level 3 : Green System) จากกระทรวงอุตสาหกรรม ชูนโยบายการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งเป้า 2 ปี เดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว สู่ระดับ 4 และ 5 ต่อไป

ree

คุณปิยะธิดา รัตนสุวรรณ กรรมการ บริษัท สหวัฒนาพลาสติก จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทพลาสติก ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Answer News Industrial Magazine ว่า บริษัทได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 ระบบสีเขียว (Green Industry Level 3 : Green System) ตอกย้ำการพัฒนาและยกระดับการบริหารจัดการโรงงานในรูปแบบโรงงานสีเขียวตามโครงการอุตสาหกรรมสีเขียวของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีการบริหารจัดการขยะ ทรัพยากรการผลิตและวิเคราะห์คุณภาพน้ำทิ้งไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับวัตถุประสงค์ในการเข้าร่วมประกวดรางวัลดังกล่าวมาจากนโยบายของบริษัทในการรับผิดชอบต่อการดำเนินธุรกิจทั้งภายในและภายนอกพื้นที่โรงงาน ตลอดจนการใส่ใจกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยการดำเนินโครงการนั้น บริษัทได้สร้างการตระหนักรู้และสร้างความเข้าใจให้กับพนักงานและผ่านการใช้เทคโนโลยีรูปแบบใหม่ เพื่อแจกแจงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อตัวพนักงาน บริษัท ชุมชนโดยรอบและสิ่งแวดล้อม บริษัทยังได้มีการทำ CSR กับชุมชนโดยรอบโรงงาน เพื่อตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยสร้างความมั่นใจให้แก่ชุมชนโดยรอบ ผ่านการเปิดรับฟังข้อคิดเห็นและเสนอแนะที่ดีที่สุดต่อชุมชน นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำงาน โดยมีการนำเทคโนโลยีการผลิตและการจัดการเข้ามาใช้ เพื่อลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็นและการจัดการขยะภายในอีกด้วย

ree

นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาองค์กรเข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียวของบริษัทที่ผลิตสินค้าพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ เพราะของเสียจากกระบวนการผลิตในขั้นตอนต่างๆ สามารถนำวนกลับมาหลอมและขึ้นรูปใหม่ได้ โดยไม่ทิ้งหรือถูกปล่อยออกสู่ธรรมชาติ อีกทั้ง บริษัทได้มีการติดตั้งถังบำบัดเศษอาหารบริเวณใต้ต้นไม้โดยรอบโรงงาน ซึ่งเศษอาหารที่เหลือ พนักงานสามารถนำไปเทใส่ไว้ เพื่อหมักกับจุลินทรีย์และย่อยสลายเป็นปุ๋ยต่อไป ส่วนประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ ผลปรากฏว่าสามารถเห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการทำ digital transformation บริหารจัดการที่นอกจากจะลด ปริมาณการใช้กระดาษขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน และข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในการประสานงาน ยังเป็นการสร้างมาตรฐานในการบริหารจัดการที่สามารถตอบสนองต่อการเปิดตลาดในต่างประเทศ ที่บริษัทระดับสากลต่างให้ความสำคัญในเรื่องของอุตสาหกรรมสีเขียวด้วย “เราตั้งเป้าหมายในอีก 2 ปีที่จะพัฒนาต่อเนื่องสู่ระดับที่ 4 และ 5 ต่อไป โดยสิ่งสำคัญที่เราจะต้องเร่งดำเนินการ คือ การสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับพนักงาน ถึงวิธีการ ขั้นตอนในการดำเนินการ และประโยชน์ที่จะได้รับจากการให้ความสำคัญต่อการใส่ใจสิ่งแวดล้อมตามแนวทางของอุตสาหกรรมสีเขียว โดยเมื่อทีมงานเข้าใจถึงความสำคัญก็จะสามารถลงมือปฏิบัติได้อย่างครบถ้วน และก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในตนเองไปด้วย” คุณปิยะธิดากล่าว

คุณปิยะธิดากล่าวต่อว่า ปัจจุบัน บริษัทได้ดำเนินธุรกิจครบรอบ 35 ปีแห่งคุณภาพ จากการเริ่มต้นดำเนินธุรกิจด้วยเครื่องจักรที่รองรับการผลิตสินเค้าเพียง 1-2 เครื่อง และได้มีการยายเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และจุดเปลี่ยนที่สำคัญในช่วงวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 หรือ ต้มยำกุ้ง บริษัทได้รับงานจากบริษัทนักลงทุนชาวญี่ปุ่น ทำให้ได้เรียนรู้ Know-How และ Know Who ที่เข้าช่วยให้ธุรกิจกลับมาเติบโตอย่างในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ยังได้รับโอกาสในการเจอคู่ค้าที่ เข้ามาช่วยสนับสนุนและแนะนำ ให้กับบริษัท ผ่านการบอกต่อถึงคุณภาพของสินค้าและการแนะนำเพื่อพัฒนาให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทดีขึ้น อีกทั้ง การสร้างวัฒนธรรมองค์กรในการให้บริการลูกค้าด้วยคุณภาพหรือมาตรฐานที่สูงกว่าในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย “เราจะให้มากกว่าสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังเสมอ เป็นสิ่งที่ลูกค้าต่างประทับใจในการให้บริการของเรา โดยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เราสามารถออกแบบและผลิตได้ตรงตามที่ลูกค้ากำหนดหรือมีรายละเอียดที่มากกว่าที่ต้องการ ซึ่งเราจะเน้นย้ำแบรนด์ของลูกค้าเป็นสำคัญ เปรียบเสมือนการเป็นตัวแทนของลูกค้าและการมีแบรนด์ของลูกค้าบนผลิตภัณฑ์ของเรา เป็นความรับผิดชอบอย่างมากที่จะต้องสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและมีมาตรฐานตลอดกระบวนการผลิต โดยเราจะเริ่มต้นจากการสำรวจความต้องการของลูกค้า การออกแบบรูปทรงและการใช้งานของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงขั้นการจัดส่งทั้งกระจายสินค้าทั่วประเทศหรือโหลดขึ้นตู้คอนเทนเนอร์สำหรับส่งออกต่างประเทศ ซึ่งลูกค้าสามารถมั่นใจในการจ้างผลิตสินค้าของเรา ด้วยทีมตรวจสอบคุณภาพสินค้าในทุกขั้นตอน รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และมีเฉดสีรองรับความต้องการกว่า 2,000 เฉดสี” คุณปิยะธิดากล่าว

“ถ้าเป็นในส่วนงานพลาสติกขึ้นรูป เราอยากเป็น Top of Mind ของลูกค้า” คุณปิยะธิดากล่าว คุณปิยะธิดากล่าวต่อถึงแผนการดำเนินธุรกิจว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทได้ให้ความสำคัญในการพัฒนา 2 ส่วน ได้แก่ การพัฒนาคนและการพัฒนาเทคโนโลยี โดยการพัฒนาคนยังคงเป็นโจทย์ที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก ด้วยบุคลากรของบริษัทมีหลากหลายระดับ ตั้งแต่ระดับปฏิบัติงานไปจนถึงระดับผู้จัดการ และหลายเจอเนอร์เรชัน จึงเป็นจุดที่ท้าทายในการพัฒนาให้เกิดความรู้ความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบกับ ในการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น การทำระบบบาร์โค้ดสินค้าและระบบคลังสินค้า เป็นต้น โดยเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้มีมาตรฐาน เป็นระบบ และลดขั้นตอนการดำเนินงาน ซึ่งล่าสุด บริษัทได้มีการลงทุนก่อสร้างอาคารคลังสินค้า เพื่อรองรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์แบรนด์เอสกิโม และนำระบบเทคโนโลยีสำหรับการจัดเก็บสินค้าที่ทันสมัยจากประเทศจีนเข้ามาติดตั้ง เพื่อให้สะดวกต่อการจัดเก็บและการค้นหาสินค้าในคลังสินค้า สำหรับจุดเด่นและจุดแข็งของบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรทางธุรกิจมาอย่างยาวนาน ด้วยรูปแบบของการดำเนินธุรกิจที่มีอยู่ 2 ธุรกิจหลัก คือ ได้แก่ บริษัท สหวัฒนาพลาสติก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ จะเน้นการผลิตสินค้าพรีเมียมภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (OEM) อาทิ กล่องอาหาร กระติกน้ำ หรือตะกร้า เป็นต้น โดยให้บริการตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ผลิต และกระจายสินค้าทั่วประเทศ ในปัจจุบัน บริษัทได้เริ่มขยายไลน์การผลิตสินค้าพลาสติกในกลุ่มอุตสาหกรรมมากขึ้น อาทิ สแลท, ลังอุตสาหกรรม และรถเข็น เป็นต้น และเตรียมที่จะขยายไลน์ในกลุ่มของ แผ่นสแลทพลาสติกสำหรับเลี้ยงสัตว์ด้วย เพื่อขยายฐานลูกค้าและรองรับความหลากหลายของตลาดมากขึ้น   ส่วนธุรกิจรีเทล โดยมี บริษัท เอสกิโม คูลเลอร์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระติกน้ำภายใต้แบรนด์ “เอสกิโม (ESKIMO)” เริ่มต้นขึ้นจากความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์พลาสติกคุณภาพให้กับลูกค้าได้มีทางเลือกมากขึ้น ด้วยทุกผลิตภัณฑ์ได้รับการผลิตขึ้นจากการใช้เม็ดพลาสติก (Food Grade) ที่มีความปลอดภัย โดยเมื่อนำมาใช้บรรจุหรือสัมผัสกับอาหารจะไม่ทิ้งสารตกค้างไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์กระติกน้ำ “เอสกิโม (ESKIMO)” ยังมีช่องทางการจำหน่ายที่ไม่เยอะมากนัก แต่มีพาร์ทเนอร์กระจายสินค้ากว่า 300 ร้านตามหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ เรายังมีจุดแข็งในเรื่องของมาตรฐานสากลและมาตรฐานการรับรองตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งล้วนเป็นมาตรฐานที่ได้รับการประเมินและเป็นที่ยอมรับในระดับโลกหลายมาตรฐาน ทั้ง ISO ISO 9001, ISO14001, ISO45001, มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก., SEDEX, EcoVadis และ SGS เป็นต้น คุณปิยะธิดากล่าวต่อถึงนโยบายในการบริหารองค์กรและบุคลากรว่า ด้วยประสบการณ์ในการทำงานของตนที่ยังไม่มากนักจึงต้องอาศัยการเรียนรู้จากบุคลากรที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคหลายท่านที่ได้ร่วมงานกับธุรกิจของครอบครัวมายาวนาน เพื่อสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจในเทคนิคต่างๆ ผสมผสานกับการนำเทคโนโลยีและวิทยาการสมัยใหม่ เข้ามาปรับปรุงและประยุกต์ใช้ให้มีความกลมกลืนและสอดคล้องกัน เพื่อให้การบริหารจัดการธุรกิจให้มีการเติบโตและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกนวัตกรรมสมัยใหม่ด้วย “ตนได้เข้ามารับตำแหน่งผู้บริหารและต้องร่วมงานกับทีมบุคลากรที่ร่วมงานกับคุณพ่อคุณแม่มาก่อน ด้วยประสบการณ์หรือความชำนาญงานที่ยังน้อย ไม่ทราบในเรื่องของเทคนิคขั้นสูงต่างๆ จึงต้องเรียนรู้กับผู้ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญมานาน ดังนั้นหากผู้บริหารท่านใดที่กำลังจะรับช่วงบริหารต่อหรือประสบปัญหาเช่นเดียวกัน จึงอยากฝากให้ปรับ Mindset ของตนเอง ด้วยการใช้ความใจเย็น ในการเรียนรู้เทคนิคจากทีมงานอาวุโสและค่อยๆ แบ่งปันและสร้างความเข้าใจในเรื่องของเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เปลี่ยนไปให้ทีมงานด้วยเช่นกัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปและก้าวสู่เป้าหมายที่จะทำให้องค์กรและบุคลากรเติบโตไปด้วยกัน” คุณปิยะธิดากล่าว ด้านสิ่งที่อยากจะฝากกับผู้อ่านของ Answer News Industrial Magazine ด้วยการทำธุรกิจของบริษัทที่เกี่ยวข้องและมีความเข้าใจกับเรื่องของพลาสติกเป็นอย่างดี จึงอยากสร้างความเข้าใจกับผู้อ่านว่า พลาสติก ไม่ใช่ตัวละครร้ายที่ทำลายโลก แต่เป็นละครสำคัญที่จะทำให้การดำรงชีวิตของมนุษย์สะดวกสบายขึ้น ส่วนปัญหาและผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เกิดจากการจัดการหลังการใช้งานที่ไม่ถูกวิธี เช่น การคัดแยกขยะก่อนทิ้ง จึงอยากฝากให้ทุกท่านร่วมกันดูแลและจัดการอย่างถูกต้อง เพื่อนำไปกำจัดหรือรีไซเคิลลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมต่อไป “พลาสติก” ไม่ใช่ตัวละครร้ายที่ทำลายโลก แต่ปัญหาและผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เกิดจาก “การจัดการหลังการใช้งานที่ไม่ถูกวิธี”

ree

คุณปิยะธิดากล่าวปิดท้ายว่า “เราขอขอบคุณซัพพลายเออร์ที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ถ้าเราจะโต เราโตคนเดียวไม่ได้ต้องพาซัพพลายเออร์ไปด้วย ไม่มีใครทิ้งใคร อุตสาหกรรมเราถึงจะก้าวไปข้างหน้าได้ บางครั้งลูกค้าต้องการผลิตภัณฑ์พรีเมียมแบบเร่งด่วน ซัพพลายเออร์ก็พร้อมซัพพอร์ทเรา ขอบคุณที่เข้าใจในวิสัยทัศน์ของเรา ขอบคุณที่เข้าใจผลิตภัณฑ์ที่เราทำ เรามั่นใจว่าเราจะเติบโตไปด้วยกัน”

ความคิดเห็น


Answer News

Call Us On

บริษัท เอ็มทีเอส คอนเนคชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด

Contact Us

  • Facebook
  • X
  • Youtube
  • TikTok

Follow us

Answer News Industrial ©2025 MTS Connections Groups Co.,Ltd สงวนลิขสิทธิ์

Answer News

Call Us On

บริษัท เอ็มทีเอส คอนเนคชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด

Contact Us

  • Facebook
  • X
  • Youtube
  • TikTok

Follow us

bottom of page