มั่นฉิม เอ็นจิเนียริ่ง ฉลองครบรอบ 2 ทศวรรษ

^{บริษัท มั่นฉิม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ครบรอบ20 ปี เปิดโรงงานแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ โชว์ความพร้อมและศักยภาพทางธุรกิจ เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กลางปี 68 เจาะกลุ่มคอนโดมิเนียม เพื่อรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม}

^{คุณปรีดี มั่นฉิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นฉิม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด กล่าวถึงที่มาที่ไปของบริษัทฯว่า ก่อตั้งขึ้นปี 2547 ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับนำเข้าตะแกรงเหล็ก และนำมาแปรรูป จนปี 2549 ได้รับงานแมชชีน เกี่ยวกับงานกลึง งานตะไบ จากลูกค้าโรงงานผลิตแก้ว และเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นหลังจากนั้นปี 2555 ตัดสินใจที่ขยายโรงงานจากเดิมทำอยู่บ้าน โดยได้ย้ายไปเปิดโรงงานแห่งที่ 2 ด้วยการเช่าพื้นที่ในการสร้างโรงงาน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของงานด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ต่อมาในปี 2557 บริษัทฯ ก็ได้ขยายโรงงานแห่งที่ 3 ในรูปแบบ Mini Factoryรองรับการ Audit จากลูกค้า เนื่องจากโรงงานแห่งที่ 2 พื้นที่ค่อนข้างจำกัด ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า โรงงานแห่งที่ 3 นี้ดำเนินธุรกิจผลิตเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ และชิ้นส่วนยานยนต์} 

^{โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ทำพิธีเปิดโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 4ของ บริษัท มั่นฉิม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3 ไร่ มีพื้นที่ใช้สอย 2,000 ตารางเมตร มีกำลังการผลิตอยู่ที่1,200,000 ชิ้น/เดือน และตั้งเป้าในการผลิตให้ได้สูงถึง 1,500,000 ชิ้น/เดือน ซึ่งความพิเศษของโรงงานใหม่แห่งนี้ ทางบริษัทฯ เน้นไปที่ระบบการทำงาน ควบคู่กับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นำมาใช้ภายในโรงงาน โดยเครื่องจักรที่นำมาติดตั้งสามารถตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า สำหรับเครื่องจักรที่ติดตั้งภายในโรงงานแห่งใหม่ของบริษัทฯ ประกอบด้วย 4 ไลน์การผลิตด้วยกัน แบ่งออกเป็นเครื่องตัดเลเซอร์ท่อ, เครื่องรีดเกลียว เพื่อรองรับงานชิ้นส่วนก่อสร้าง J-Bolt และ L-Bolt และเครื่องจักรแมชชีนเซ็นเตอร์ อีกจำนวน 2 เครื่อง รวมทั้งมีการลงทุนเพิ่ม ห้องพ่นสีและตู้อบ สำหรับในการใช้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ที่ติดตั้งอยู่ภายในโรงงานแห่งที่ 3 อีกด้วย  ทั้งนี้สามารถช่วยในเรื่องการลดต้นทุนโดยที่งานต่างๆ สามารถจบกระบวนการที่โรงงานของเราได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง หรือโลจิสติกส์ คุณปรีดี กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ของเราไม่ได้ทำเพียงแค่ชิ้นส่วนยานยนต์อย่างเดียว ซึ่งตอนนี้เราได้รับความไว้วางใจให้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตรสัญชาติออสเตรเลีย ที่เข้ามาดำเนินการในประเทศไทยชิ้นส่วนที่เราเป็นผู้ผลิต ก็จะถูกส่งกลับไปยังประเทศออสเตรเลียอีกครั้งเพื่อนำไปประกอบเป็นเครื่องจักรกลการเกษตรในนามแบรนด์ซึ่งเห็นได้ว่าทางบริษัทฯ เริ่มดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ฉะนั้น เมื่อธุรกิจมีความหลากหลายอยู่ในมือการติดต่อลูกค้าย่อมมีความหลากหลายมากขึ้นตามไปด้วยดังนั้น บุคลากรที่จะเข้ามาร่วมงานกับเราต้องมีประสบการณ์ และมีความพร้อมทั้งด้านข้อมูลและความพร้อมด้านการทำงาน}

^{ฉะนั้น เรื่องของการพัฒนาศักยภาพด้านบุคลากร เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯ เราได้มีการส่งบุคลากรไปทำการอบรมในหลักสูตรต่างๆ จากหน่วยงานภายนอก ควบคู่กับการจัดอบรมให้กับบุคลากรภายในบริษัท เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ และศักยภาพให้กับพนักงาน หรือบุคลากร ตลอดจนการจัดวางตำแหน่ง และหน้าที่ในการปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับบุคลากรนั้นๆ อีกทั้ง ยังได้นำมาตรฐาน ISO 9001 เข้ามาช่วยในเรื่องการบริหารจัดการภายในองค์กร เพื่อให้มีมาตรฐานในการดำเนินงานรวมถึงมาตรฐานในการผลิตต่างๆ มากยิ่งขึ้น}

^{เมื่อบริษัทฯ มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร และมาตรฐานการผลิตต่างๆ ส่งผลทำให้เราได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท อีคอร์เนส (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทเรา  ให้โอกาส Supplier รายเล็กๆ เข้ามามีบทบาทสำคัญยกระดับเราให้เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ หรือรายหลักๆ ของสินค้า และเมื่อใดก็ตามที่มี Model สินค้าตัวใหม่ๆ ออกมา เราจะได้รับโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในการออกแบบดีไซน์สินค้า Model ใหม่ร่วมกับทีมงานของ บริษัท อีคอร์เนส (ไทยแลนด์) จำกัด ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพและการพัฒนาควบคู่ไปพร้อมๆ กันนอกเหนือจากงานที่ได้รับจากกลุ่มบริษัทเอกชนแล้ว บริษัทฯ ยังได้รับโอกาสผลิตชิ้นงานให้กับหน่วยงานภาครัฐในการผลิตเสา รั้วกั้นที่ติดตั้งตามถนนมอเตอร์เวย์ ของกรมทางหลวง อีกด้วย}

^{อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจในระยะสั้น นั้น บริษัทฯ กำลังสร้างบุคลากรเพื่อให้ตอบสนองกับการบริหารงานของตนเอง คาดว่าตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 เป็นต้นไป หากบริษัทมีความพร้อมในด้านบุคลากรที่สามารถตอบโจทย์ในการทำงานให้กับเรา อาทิ ทีมดีไซน์ทีมพัฒนาสินค้า ทีมช่างเทคนิค ทีมดูแลลูกค้า บริษัทฯ ก็จะทำการเปิดตัวธุรกิจใหม่ คือ อุปกรณ์ตกแต่งภายในอาคาร ของเรากลางปีนี้แน่นอน ซึ่งตอนนี้ก็ได้ดำเนินการออกแบบไว้เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่ทำการตลาดโดยสินค้าเราเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มคอนโดมิเนียมกับกลุ่มลูกค้าใช้สอยทั่วไป และเรามีข้อได้เปรียบตรงที่มีราคาไม่สูงและจับต้องได้ เราเน้นไปที่คุณภาพ และอายุการใช้งานมากกว่า}

^{ส่วนแผนในช่วงระยะกลาง หรือระยะยาว นั้น ถ้าหากบริษัทฯ มียอดออเดอร์จากสินค้าตัวใหม่ หรือมีการตอบรับของตลาดที่ดี เราจะทำการขยายพื้นที่ภายในบริเวณโรงงานแห่งที่ 4 โดยเราจะสร้างเพิ่มขึ้นเป็นอีก 1 ไลน์การผลิต เพื่อดำเนินการผลิตสินค้าประเภทนี้ โดยเฉพาะ และวางเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจในปี 2568 อยู่ที่ 20% ของยอดขาย โดยวางกลยุทธ์เพื่อพิชิตยอดขายให้เป็นไปตามแผน ด้วยการนำเอากลุ่มงานเก่าของลูกค้าบริษัทฯ กลับมาดำเนินการใหม่ รวมถึงนำกลยุทธ์ด้านการปรับราคาเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ หรือสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน}

^{ด้านวิสัยทัศน์ หรือนโยบายในการบริหารธุรกิจของ บริษัท มั่นฉิม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด คือ เราไม่ได้คิดที่จะไปเอาเปรียบลูกค้า เราจะใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารธุรกิจ รวมถึงวิธีการแนะนำในเรื่องของการลดต้นทุนให้กับลูกค้า โดยที่คุณภาพต้องได้ และตอบโจทย์ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งโรงงานของเราเกิดขึ้นมาเพื่อช่วย Support ให้กับลูกค้าของเราและสร้างความเชื่อมั่น ทั้งในเรื่องคุณภาพของสินค้าเรื่องของการตรงต่อเวลา และราคาที่เป็นธรรม ต้องขอขอบคุณลูกค้าของเราที่ไว้วางใจเลือกใช้บริการของบริษัท ตลอดจนกลุ่มพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ หรือกลุ่มซัพพลายเออร์ต่างๆ ที่คอยให้การสนับสนุนกับทางบริษัทฯ มาโดยตลอด เราจะเติบโตเคียงข้าง พร้อมที่จะผลักดันให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน}

^{นอกจากการสนับสนุนให้กับลูกค้า และพาร์ทเนอร์ของเราแล้ว บริษัทฯ ยังได้มีการจัดกิจกรรม CSR เพื่อสังคม หรือชุมชน ที่อยู่รอบๆ บริเวณโรงงาน อาทิ การบริจาคสิ่งของ มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน และโรงเรียนที่อยู่รอบๆ บริษัทฯ มอบของสนับสนุนให้กับอนามัย หรือแม้กระทั่งเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับผู้พิการ เป็นต้น} 

^{“หากเรายืนด้วยตัวเองได้ หรือมีแบรนด์ เป็นของตัวเอง โดยใช้วัตถุดิบ หรือเครื่องจักรที่เรามีอยู่นำมาสร้างสรรค์สินค้าขึ้นมาใหม่ ส่วนเรื่องของโอกาสในการลงทุน หรือทำธุรกิจกับสถานการณ์ปัจจุบัน มองว่าโอกาสในการทำธุรกิจไม่ได้เข้ามาบ่อยครั้ง ฉะนั้น เมื่อมีโอกาสเข้ามาเราควรรักษา หรือตักตวงโอกาสนั้นเก็บเอาไว้” คุณปรีดี กล่าวทิ้งท้าย}