กรมโรงงานฯ #เปลี่ยนความท้าทายสู่โอกาส มุ่งมั่นขับเคลื่อน Green Industry ตั้งเป้า #ลดก๊าซเรือนกระจก 5.4 ล้านตันในปี 2573 ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมไทยสู่ #NetZero อย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 นายธีรทัศน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “#นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน” ในพิธีเปิดงานสัมมนาวิชาการ ประจำปี 2568 : Climate Change Forum 2025 “Driving towards Net Zero” พร้อมด้วยนางสาวปานทอง ศรีคัฒนพรหม ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการวัตถุอันตราย เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องใบไม้และห้องปันสุข ชั้น 8 อาคารเอ็ม ทาวเวอร์ ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ

งาน #CCI Climate Change Forum 2025 จัดโดย สถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (CCI) ภายใต้ #สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)” ภายในปี พ.ศ. 2593 และ “การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero GHG Emissions)” ภายในปี พ.ศ. 2608 โดยภายในงานมีพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่หน่วยงานที่มีผลงานดีเด่นด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ในโอกาสดังกล่าว รองอธิบดีฯ ธีรทัศน์ ได้กล่าวถึงบทบาทและภารกิจของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการผลักดันประเทศสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมไทยต้องเผชิญแรงกดดันจากมาตรการสิ่งแวดล้อมสากล เช่น มาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: #CBAM) จึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัวสู่การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเดินหน้านโยบาย Green Industry และ BCG Economy เพื่อสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก รองรับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต สร้างนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่าครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมดั้งเดิมและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และนำพาอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรมที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ กรมโรงงานฯ ตั้งเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรม 5.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี พ.ศ. 2573 ประกอบด้วย 3 มาตรการหลัก ได้แก่ #มาตรการทดแทนปูนเม็ด โดยการใช้วัสดุทดแทนปูนเม็ดในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกและการใช้วัสดุทดแทนปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นในคอนกรีตผสมเสร็จ มาตรการทดแทน/ปรับเปลี่ยนสารทำความเย็นและการกำจัดทำลายของเสียและสารทำความเย็นที่เสื่อมสภาพอย่างถูกวิธี และมาตรการการจัดการน้ำเสียอุตสาหกรรม โดยการเพิ่มการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียอุตสาหกรรมด้วยการนำก๊าซมีเทนกลับมาใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ กรมโรงงานฯ ได้มีการดำเนิน #โครงการลดและเลิกใช้สารไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน ระยะที่ 2 (Thailand HCFC Phase-out Management Plan Stage II) โดยได้รับเงินสนับสนุนแบบให้เปล่าจากกองทุนพหุภาคีภายใต้พิธีสารมอนทรีออลว่าด้วยสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ผ่านทางธนาคารโลก เพื่อดำเนินการลดและเลิกใช้สาร HCFCs รวมถึงการให้สัตยาบันต่อพิธีสารมอนทรีออล ฉบับแก้ไข ณ กรุงคิกาลี (Kigali Amendment) เพื่อ #ควบคุมและลดการใช้สารไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (#HFCs) ด้วย

รองอธิบดีฯ ธีรทัศน์ ได้เน้นย้ำความมุ่งมั่นของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการสนับสนุนส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมในการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และ #มุ่งสู่เป้าหมายคาร์บอนต่ำ และ Net Zero เพื่อการพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยสู่เศรษฐกิจโลกต่อไป ————————————

#ClimateChangeForum2025 #NetZeroThailand #GreenIndustry #BCGEconomy #CarbonNeutral #SustainableIndustry #กรมโรงงานอุตสาหกรรม

ที่มา : กรมโรงงานอุตสาหกรรม