top of page

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดวิสัยทัศน์หนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

  • รูปภาพนักเขียน: answernewsonline
    answernewsonline
  • 24 ส.ค. 2567
  • ยาว 2 นาที
ree

“อรมน  ทรัพย์ทวีธรรม” อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โชว์วิสัยทัศน์และนโยบายของกรมฯ สู่การ “เป็นองค์กรภาครัฐชั้นนำด้านบริการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2570 และสร้างพลังขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม”


นางอรมน  ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Answer News INDUSTRIAL Magazine เกี่ยวกับวิสัยทัศน์และนโยบายที่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นหน่วยงานมีภารกิจหลักในการให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคล การให้บริการข้อมูลธุรกิจ (เช่น การออกหนังสือรับรองนิติบุคคล การให้บริการตรวจสอบเอกสารทางทะเบียน การคัดสำเนาเอกสาร และข้อมูลอื่น เช่น งบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น) การพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ ผู้ประกอบการ SME จนถึงการกำกับดูแลให้ธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมายภายใต้การกำกับดูแล 10 ฉบับ และส่งเสริมให้ธุรกิจไทยดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล


โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์ คือ “เป็นองค์กรภาครัฐชั้นนำด้านบริการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2570 และสร้างพลังขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม” มีแนวทางการขับเคลื่อนใน 4 ประเด็น ดังนี้


ประเด็นที่ 1 ยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ (Go Digital) : พัฒนาทุกระบบให้บริการเป็นดิจิทัลตลอดกระบวนการให้บริการ รวมถึงพัฒนาคลังข้อมูลธุรกิจ ให้มีประสิทธิภาพ นำไปใช้ประโยชน์ได้ในเชิงธุรกิจ สร้างนวัตกรรมการให้บริการ ส่งเสริมการเข้าถึงบริการได้สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา


 ประเด็นที่ 2 พัฒนาธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง (Nurture & Growth) : ส่งเสริม บ่มเพาะ ให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนสู่การดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม และการเข้าถึงตลาด โดยการสร้างภาคี ความร่วมมือเพื่อให้เกิดการเกื้อหนุนเชื่อมโยงตามห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ รวมทั้งการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยหลักประกันทางธุรกิจ


ประเด็นที่ 3 ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Sustainable in Business) : สร้างธุรกิจโปร่งใสด้วยหลักธรรมาภิบาลธุรกิจ มีระบบตรวจสอบธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือโดยการเชื่อมโยงระบบงานและข้อมูลภายในเข้าด้วยกัน ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีในการดำเนินธุรกิจ ที่เน้นการใช้ข้อมูลสารสนเทศเพื่อติดตามการปฏิบัติตามกฎหมาย


 ประเด็นที่ 4 สร้างองค์กรแห่งนวัตกรรม (Innovative Organization) : สร้างนวัตกรธุรกิจ (Business Innovator) ที่มีสมรรถนะสูงในการสร้างนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงานพร้อมกับยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูง มั่นคงปลอดภัย รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงกฎระเบียบ ให้เอื้อต่อการทำงานในยุคดิจิทัล


สำหรับนโยบายการดำเนินงานและบริหารจัดการ ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เน้นการทำงานแบบบูรณาการ เพื่อสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้มแข็ง เพื่อผลักดันให้การปฏิบัติงานเกิดผลสำเร็จ รวมถึงมีความโปร่งใส และตอบโจทย์ความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสูงสุด


ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญ ใน 3 ด้าน

ด้านที่ 1 อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ ด้วยการพัฒนางานดิจิทัล ระบบข้อมูลสารสนเทศ รวมถึงบูรณาการเชื่อมโยงบริการและข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดบริการที่ “สะดวก ถูกต้อง รวดเร็ว” ลดขั้นตอนและภาระของประชาชนและภาคธุรกิจ


ด้านที่ 2 พัฒนาผู้ประกอบการไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน มีรายได้ และเติบโต อย่างยั่งยืน ดังนี้

1) พัฒนาศักยภาพในการปรับตัวของธุรกิจ สร้างความยั่งยืน รวมถึงเตรียมความพร้อมสำหรับต่อยอดสู่การค้าในระดับสากล โดยการเพิ่มศักยภาพด้านบริหารจัดการธุรกิจ ด้วยการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ ในการลดต้นทุน และเพิ่มรายได้ ด้วยการเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์ รวมทั้งส่งเสริมแนวคิด การประกอบธุรกิจด้วยความยั่งยืนการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการก้าวสู่การค้า ในระดับสากล


2) ขยายช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ เช่น ธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ธุรกิจร้านอาหาร Thai SELECT และธุรกิจชุมชนด้วยการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสถานีน้ำมันรายใหญ่ รวมทั้งส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุน ด้วยดอกเบี้ยอัตราพิเศษ และหลักประกันทางธุรกิจ ผ่านความร่วมมือกับสถาบันการเงินต่างๆ 


ด้านที่ ๓ กำกับดูแล และสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน และเกิดความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ ดังนี้


1) ส่งเสริมธรรมาภิบาลธุรกิจไทย ผ่านการมอบเครื่องหมายรับรอง “เกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ” ด้วยแนวคิด ESG (Environment, Social, Governance: ESG)  ตามหลักเกณฑ์การตรวจประเมินของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 6 หลัก ได้แก่ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า ปัจจุบันมีผู้ได้รับเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพจากกรม 220 ธุรกิจ


2) ขยายความร่วมมือกับสำนักงานบัญชี และสภาวิชาชีพบัญชี เพิ่มจำนวนสำนักงานบัญชีคุณภาพ เพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมส่งเสริมธรรมาภิบาลภาคธุรกิจ ซึ่งในปัจจุบันมี 171 สำนักงาน รวมถึงพัฒนาผู้ทำบัญชี และผู้สอบบัญชี เพื่อส่งเสริมให้นิติบุคคลมีการจัดทำรายงานทางการเงินที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล นำไปสู่ความน่าเชื่อถือของภาคธุรกิจไทยอีกทางหนึ่งด้วย


ส่วนแผนงานหรือโครงการในอนาคต กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้กำหนดแผนงานเพื่อพัฒนาศักยภาพ และสร้างความพร้อมของผู้ประกอบการให้ก้าวทันโลกของธุรกิจวิถีใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การปรับตัวเข้าสู่การแข่งขันในตลาดการค้าออนไลน์ ควบคู่กับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ รวมทั้งการเสริมสร้างธรรมาภิบาลเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน มีรายได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน ใน 3 ด้านหลัก ดังนี้


ด้านที่ 1 การอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนนิติบุคคล โดยการพัฒนาบริการออนไลน์อย่างครบวงจร เพื่อสร้างภาพลักษณ์ และบรรยากาศที่ดีในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ และนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ “ง่าย สะดวก รวดเร็ว ประหยัด” ให้สอดรับกับการเข้าสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล ดังนี้


- ให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคล แก่หน่วยงานราชการ ผ่านระบบ Business Data Exchange เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถตรวจสอบข้อมูลธุรกิจได้แบบ Real Time ลดภาระผู้ประกอบการในการขอเอกสารนิติบุคคลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานที่ภาครัฐที่ได้เชื่อมโยงข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว 170 หน่วยงาน เช่น กรมบัญชีกลาง กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต


- ให้บริการระบบการออกใบอนุญาต/หนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบ (e-Foreign Business) ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ได้แก่ การออกใบอนุญาต/การออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร เพื่อลดระยะเวลา และลดต้นทุนในการดำเนินการของนักลงทุนต่างชาติ ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีในการดำเนินธุรกิจ คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกรกฏาคม 2567


 - ให้บริการระบบจดทะเบียนนิติบุคคลรองรับการให้บริการข้อมูลดิจิทัล (ระบบ Biz Regist) โดยพัฒนาการยื่นคำขอในรูปแบบ e-Form สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลกับหน่วยงานเจ้าของข้อมูล เช่น กรมการปกครอง รวมถึง รวมขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจ เช่น การยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม กรมสรรพากร คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2568


 นอกจากนี้ กรมอยู่ระหว่างพัฒนาระบบจดทะเบียนสมาคมการค้าและหอการค้า (e-Registration for Trade Associations and Chambers of Commerce) ให้รองรับทุกกระบวนการของการจดทะเบียน เช่น การยืนยันตัวตน การกรอกและยื่นคำขอจดทะเบียน การชำระค่าธรรมเนียม ตลอนจนการรับเอกสารการจดทะเบียน (ใบอนุญาตการจดทะเบียน ใบเสร็จรับเงิน) คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2568


 ด้านที่ 2 การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการไทย เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน มีรายได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนี้


 1) เสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ 

         - เสริมทักษะการปรับตัวของผู้ประกอบการ สร้างความตระหนักรู้การนําโมเดลเศรษฐกิจ BCG ไปใช้ในการดําเนินธุรกิจ เพื่อยกระดับการสร้างมูลค่าเพิ่มและเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยก้าวสู่การค้าในระดับสากล โดยส่งเสริมแนวคิด“การประกอบธุรกิจด้วยความยั่งยืน” และพัฒนาทักษะการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ในหลายๆ กลุ่มธุรกิจ เช่น ธุรกิจร้านอาหาร Thai SELECT เครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ธุรกิจชุมชน SMART Local และการค้าออนไลน์ “BCG ชุมชนออนไลน์ นวัตกรรมรักษ์โลก”


- พัฒนาทักษะการบริหารจัดการ และยกระดับสู่การบริหารจัดการในระดับมาตรฐานสากล เช่น ธุรกิจแฟรนไชส์ ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และธุรกิจผู้ให้บริการโลจิสติกส์ นอกจากนี้ ยังได้มีการให้ความรู้ผ่าน e-Learning “DBD Academy” เพื่อให้สอดรับกับผู้ประกอบการในยุคใหม่ ที่ต้องแสวงหาความรู้ในการดำเนินธุรกิจภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว ภายใต้สภาวะการณ์การแข่งขัน ซึ่งปัจจุบัน มีทั้งหมด     4 หลักสูตร 34 วิชา เช่น หลักสูตรการเริ่มต้นธุรกิจ การตลาดด้าน e- commerce และ BCG ธุรกิจสร้างรายได้ รักชุมชน รักษ์โลก เป็นต้น และในปี 2567 จะเพิ่มเติมอีก 3 หลักสูตร ได้แก่ SME กับกระแสการค้าโลก ESG การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน  และการบริหารจัดการโฮมสเตย์


- สร้างโอกาสในการขยายการตลาดให้ผู้ประกอบการ โดยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้ภายใต้หลักสูตรต่างๆ เช่น The Influencer Journey (การสร้างแบรนด์และการเป็น Influencer เพื่อกระตุ้นยอดขาย) หลักสูตรปั้นร้านค้าออนไลน์ขั้นเทพ หรือ Online Marketing Genius : OMG รวมถึง การพัฒนาทักษะการนำเสนอและเจรจาธุรกิจ และนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ เช่น ธุรกิจแฟรนส์ ภายใต้งาน“แฟรนไชส์สร้างอาชีพ Roadshow” ธุรกิจชุมชน ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย และเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club  


2) บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ

- ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผลักดันอาหารไทยเป็น Soft Power ที่ครองใจนักท่องเที่ยว โดยผลักดันร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ของกรมในสร้างโอกาสทางการตลาด ภายใต้สโลแกน ‘อาหารไทย ต้อง Thai SELECT’ และเชื่อมโยงสู่ภาคการท่องเที่ยว โดยมุ่งหวังให้ร้าน Thai SELECT เป็นหนึ่งใน Soft Power ที่คนทั่วโลกต้องการเดินทางมาลิ้มลอง ขับเคลื่อนให้เกิดกระแสนิยมบริโภคอาหารไทย และเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้ดังไกลไปทั่วโลก


- ร่วมกับสถานีบริการน้ำมัน 3 แห่ง (ปตท. บางจาก และพีที) เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการ SME ที่กรมสนับสนุน ได้แก่ แฟรนไชส์ ฟู้ดทรัค ร้านอาหาร Thai SELECT และธุรกิจชุมชน เข้าจำหน่ายสินค้าในสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศเพื่อกระจายสินค้า สู่ผู้บริโภคกลุ่มนักเดินทางและนักท่องเที่ยวโดยตรง ให้สามารถเลือกซื้อสินค้าที่เป็นของเด่นพื้นที่ ของดีพื้นถิ่นในจังหวัดต่างๆ ได้โดยสะดวก เพิ่มโอกาสทั้งผู้ประกอบการให้ขายสินค้าได้มากขึ้น และผู้บริโภคได้มีทางเลือกในการซื้อสินค้า


 - จัดหาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของสมาชิกเครือข่าย MOC Biz Club โดยจัดหาจุดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ (Biz Shop) เป็นการบูรณาการร่วมกับคู่ค้าพันธมิตร อาทิ ร้านขายของฝากประจำจังหวัด กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งค้าปลีก กลุ่มธุรกิจโรงแรม กลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ กลุ่มธุรกิจขนส่ง-โลจิสติกส์ ในพื้นที่จังหวัด รวมทั้งจัดหาพื้นที่ในเขตจังหวัด อาทิ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ศาลากลางจังหวัด สถานที่ของส่วนงานราชการ หรือเอกชน เพื่อจัดตั้ง Biz Shop โดยปัจจุบันมีร้าน Biz Shop ทั้งสิ้น จำนวน 13 แห่ง ใน 11 จังหวัด โดยมีเป้าหมายขยายร้าน Biz Shop อย่างต่อเนื่องให้ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ภายในปี 2570  


- ร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีชื่อเสียง เช่น Shopee, LAZADA ช่วยขยายช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการชุมชน


ด้านที่ 3 การสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนและเกิดความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจโดยมีแนวทางการดำเนินงาน โดย 1) บูรณาการความร่วมมือสำนักงานบัญชี และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อเพิ่มจำนวนสำนักงานบัญชีคุณภาพ 2) จับมือหน่วยงานพันธมิตร เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เดินหน้ากำกับดูแล และตรวจสอบเรื่องธรรมาภิบาลการประกอบธุรกิจ และ 3) ขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้มีข้อมูลทางการเงินสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยต่อยอดการเผยแพร่องค์ความรู้ เรื่องการกำหนดรายการย่อฉบับใหม่และความรู้อื่นๆ  ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำงบการเงิน เพื่อให้ภาคธุรกิจและผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี และหน่วยงานต่างๆ ได้รับรู้ และตระหนักถึงการจัดทำงบการเงินอย่างถูกต้อง ส่งผลให้งบการเงินของธุรกิจสามารถสะท้อนผลการดำเนินงาน และฐานะทางการเงินที่แท้จริง

ความคิดเห็น


Answer News

Call Us On

บริษัท เอ็มทีเอส คอนเนคชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด

Contact Us

  • Facebook
  • X
  • Youtube
  • TikTok

Follow us

Answer News Industrial ©2025 MTS Connections Groups Co.,Ltd สงวนลิขสิทธิ์

Answer News

Call Us On

บริษัท เอ็มทีเอส คอนเนคชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด

Contact Us

  • Facebook
  • X
  • Youtube
  • TikTok

Follow us

bottom of page