Smart Park Industrial Estate นิคมอุตสาหกรรมยุคใหม่

คอลัมน์พิเศษของ Answer News Industrial Magazine ฉบับนี้ พากลุ่มผู้ประกอบการไปทำความรู้จักกับโครงการ “นิคมอุตสาหกรรม Smart Park Industrial Estate” ชูจุดขายไร้มลพิษ เจาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) 

ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ติดกับถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) จังหวัดระยอง มีพื้นที่รวม 1,383.71 ไร่ นิคมฯ อยู่ใกล้กับแหล่งคมนาคม อาทิ ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด, ท่าเรือแหลมฉบัง, สนามบินอู่ตะเภา เป็นต้น และยังเป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC : Special Economic Promotional Zone เพียบพร้อมไปด้วยระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ได้แก่ ระบบถนน ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา ระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง ตลอดจนมีแนวคิดการใช้ระบบการจ่ายน้ำเย็นแบบรวมศูนย์ DISTRICT COOLING

Smart Park Industrial Estate ดำเนินการภายใต้แนวคิดนิคมอุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้ต้องบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2593 โดยหลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จ และดำเนินโครงการแล้วจะก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 7,459 คน และมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจพื้นที่ประมาณ 1,342 ล้านบาท/ปี สามารถสร้างเศรษฐกิจชุมชน ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อีกด้วย โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนที่วางไว้ในปี 2567

นอกจากนี้ ภายในนิคมฯ มีความพร้อมด้านระบบการสื่อสารแบบใยแก้ว ระบบสื่อสาร/เคเบิลต่างๆ และยังเป็นศูนย์กลางทางด้านข้อมูล DATA FARM สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ (Facilities) ที่รวบรวมเอาศูนย์การค้า (Community Mall) สำหรับผู้สนใจ และมีตลาดกลางทางด้านการเกษตร (Agro – Market)

ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของ นิคมอุตสาหกรรม Smart Park Industrial Estate นั้น เป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ทันสมัย ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) กลุ่มอุตสาหกรรมวิจัยและพัฒนา (Research and Development) กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ (Aviation and Logistics) กลุ่มอุตสาหกรรมอุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และจักรกล (Intelligent Device, Robotic and Mechanical) และกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อปัญญาประดิษฐ์ (Digital Technology with Artificial Intelligence)

‘Smart Park Industrial Estate’ มี 5 ข้อแตกต่างจากนิคมอุตสาหกรรมทั่วไป คือ 1.ความสมดุลระหว่างอุตสาหกรรมกับพื้นที่สีเขียว นิคมฯ Smart Park เน้นพลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

2.บริการเฉพาะอุตสาหกรรมกลุ่ม S-curve โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่มี 4 กลุ่ม คืออุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ผสมผสานการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯอุตสาหกรรมโลจิสติกส์การบินและอวกาศ ที่จะเริ่มจากการบริการเพื่อขนส่งไปจนถึงการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานไร้คนขับ (drone) และระบบนำทางซอฟต์แวร์ อุตสาหกรรมอุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์และจักรกลอุตสาหกรรมดิจิทัล เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อปัญญาประดิษฐ์ อย่างเช่นซอฟต์แวร์ที่ฝังในตัวระบบหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางประเภท 

3.เน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งทั้ง 4 อุตสาหกรรมข้างต้นจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) คือ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี หรือสูงสุด 13 ปี ได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 เพิ่มเติมอีก 5 ปี หลังสิ้นสุดระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามเกณฑ์ปกติ โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องร่วมกับสถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย ฝึกอบรมบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สัดส่วนร้อยละ 10 ของจำนวนพนักงานนั้นๆ หรือขั้นต่ำ 50 คนต่อ 1 ปี

4.ไร้สายไฟ ลดการใช้รถยนต์ นิคมฯ Smrt Park ใช้งบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 2,800 ล้านบาท สูงกว่านิคมอุตสาหกรรมทั่วไป เนื่องจากในสมาร์ทพาร์คจะเป็นนิคมฯ ต้นแบบที่มีระบบสาธารณูปโภคน้ำร้อน น้ำเย็น และสายไฟฟ้าทุกอย่างลงใต้ดินทั้งหมด เช่น การวางสายใยแก้วนำแสงร้อยท่อใต้ดินที่ บมจ.ทีโอทีจะทำร่วมกับ กฟน.ซึ่งจะเข้ามาวางระบบไฟฟ้าอัจฉริยะในโครงการสมาร์ทพาร์ค มีรถรางไฟฟ้าขนส่งในพื้นที่ ลดการใช้รถยนต์ รวมทั้งอาคาร โรงงาน จะต้องได้มาตรฐานอาคารสีเขียว

5.บริการ Data Center และ 5G ใน Smart Park จะมีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ และศูนย์ Data Center ด้วยรูปแบบ Cloud Platform มีระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

ทั้งนี้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยข้อมูลว่า มีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนจากหลายประเทศ หลังจากที่ กนอ. มีการโรดโชว์ โดยล่าสุดกลุ่มนักลงทุนจากประเทศจีนแสดงความสนใจที่จะเช่าที่ดินแปลงใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค เพื่อประกอบกิจการในกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-Curve) เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนักลงทุนชาวจีนได้ให้ความสนใจอย่างมากในการเช่าพื้นที่แบบเหมาแปลงทั้งหมด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจ (Feasibility Study)

ด้านมาตรการส่งเสริมการให้เช่าที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) ในพื้นที่เขตอุตสาหกรรมทั่วไป กำหนดระยะเวลามาตรการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุน เข้ามาเช่าที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ ยกเว้นค่าเช่าที่ดิน 1 ปี ยกเว้นค่าบริการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก 1 ปีแรก โดยมีเงื่อนไข คือ ทำสัญญาเช่าที่ดินเพื่อประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.66 – 27 ธ.ค.67 วางหลักประกันการเช่าที่ดินเป็นเงินสดหรือหนังสือค้ำประกันเต็มจำนวน มูลค่าสองเท่าของค่าเช่ารายปี ห้ามให้เช่าช่วงหรือโอนสิทธิการเช่าที่ดินบางส่วนหรือทั้งหมดภายใน 2 ปี แจ้งเริ่มประกอบกิจการภายใน 3 ปี และมีระยะเวลาการเช่าที่ดินไม่น้อยกว่า 10 ปี โดยเงื่อนไขและข้อกำหนดทั้งหมดเป็นไปตามที่ กนอ.กำหนด