top of page

FTI ชูนโยบายเสริมแกร่งอุตฯ ไทยสู่การแข่งขันระดับสากล

  • รูปภาพนักเขียน: answernewsonline
    answernewsonline
  • 10 ต.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที
ree

เปิดวิสัยทัศน์ ‘เกรียงไกร เธียรนุกุล’ ประธาน ส.อ.ท. สมัย 2 สานต่อนโยบาย “Strengthen Thai Industries for Stronger Thailand เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม” เดินหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมไทยและกลุ่มเอสเอ็มอีให้เข้มแข็งและแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) หรือ FTI ให้สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับการดำเนินงานของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยว่า จากการที่ดำรงตำแหน่งประธาน ส.อ.ท. ในวาระแรก (2565-2567) ได้ชูวิสัยทัศน์ “Strengthen Thai Industries for Stronger Thailand เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม” โดยชูนโยบายอุตสาหกรรมไทย สู่ ONE FTI (ONE Vision, ONE Team, ONE Goal) คือ ทุกภาคส่วนต้องเชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ เกิดการบูรณาการนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมใหม่ ดังนั้น ในการดำรงตำแหน่งวาระที่ 2 ยังคงมุ่งเน้นนโยบายและวิสัยทัศน์ดังกล่าว


ree

สำหรับ ONE Vision คือ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วน ONE Team เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง 46 กลุ่มอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ภาครัฐ สถาบันการศึกษา และหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกันพัฒนาทักษะ เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ และ ONE Goal คือ การกำหนดเป้าหมายในการปฏิบัติงานในทิศทางเดียวกัน เมื่อรวมทั้ง 3 แล้วจะทำให้เกิดความร่วมมือและก้าวสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน


ประกอบกับ ส.อ.ท. ได้กำหนดนโยบายในการผลักดันผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่


ree

1. First Industries หรืออุตสาหกรรมเดิม เป็นการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน ซึ่งมีความท้าทายในเรื่องของเทคโนโลยีที่ถูก Disrupt อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถแข่งขันได้อย่างเต็มที่ ด้วยการปรับใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ตลอดจนการพัฒนาทักษะแรงงานที่มีศักยภาพ เพิ่มประสิทธิภาพ นำไปสู่นวัตกรรมเพื่อให้อยู่รอด


2. กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต หรือ Next-gen Industries คือ การสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า, อุตสาหกรรมชีวภาพ, อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น ซึ่งมุ่งเน้นอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศที่จะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065


ดังนั้น จากกรอบแนวคิดของนโยบายดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการขับเคลื่อนใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ 1. อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่ต้องปรับตัวให้ทันต่อเทคโนโลยีของเครื่องจักร รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) ในการเรียนรู้ เพิ่มทักษะให้รองรับนวัตกรรมสมัยใหม่ด้วย 2. กลุ่มโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ BCG มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า เพิ่มผลผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่ม ควบคู่กับการพัฒนาสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อม และ 3. กลุ่มอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ด้วยการส่งเสริมการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งปัจจุบันสินค้าที่จะส่งไปยุโรปเริ่มมีการเก็บภาษีคาร์บอนตามมาตรการ CBAM จะทำให้เกิดต้นทุนมากขึ้น


ree

ส่วนโครงการที่จะช่วยผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ในการเปลี่ยนผ่านสู่ “Smart SMEs” โดยมี 4Go ได้แก่  1.Go Digital & Ai ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลของ ส.อ.ท. ในการจัดทำแพคเกจโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สำคัญภายใต้โครงการ “Digital One” เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดรายจ่าย ซึ่งปกติโปรแกรมต่างๆ มีมูลค่ารวมกันเป็นหลักแสนบาท แต่จำหน่ายให้สมาชิกเพียง 1,110 บาท เพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถจับต้องและเป็นเจ้าของได้ นำไปพัฒนาช่วยยกระดับให้เป็นสมาร์ทเอสเอ็มอีได้เร็วขึ้น


2. Go Innovation เป็นเอสเอ็มอี “จิ๋วแต่แจ๋ว” ด้วยนวัตกรรมที่คล้ายกับเอสเอ็มอีต่างประเทศ โดยร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดตั้งกองทุนนวัตกรรมที่เรียกว่า “Innovation One” ซึ่งทางกระทรวง อว. ให้งบสนับสนุน 1,000 ล้านบาท และ ส.อ.ท. สมทบอีก 1,000 ล้านบาท รวมเป็น 2,000 ล้านบาท ในกรอบระยะเวลา 3 ปี เพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า


3. Go Global ผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถผลิตและขายสินค้าไปต่างประเทศได้ในมาตรฐานที่ต่างประเทศยอมรับ ซึ่งมีโครงการร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ DITP กระทรวงพาณิชย์ รวมทั้ง การพัฒนาหลักสูตร FTI Go Global ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการให้ความรู้กับเอสเอ็มอี พัฒนาสู่การเป็น New Exporter โดยเมื่อจบหลักสูตรแล้ว จะได้ร่วมกับ DITP จัดแสดงสินค้าในต่างประเทศ ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้ว จำนวน 2 รุ่น และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเยี่ยม


4. Go Green มีการผลักดันให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผลิตสินค้าและมีกระบวนการทั้งหมดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยปัจจุบันการตื่นตัวของผู้ประกอบการและผู้อุปโภคบริโภคทั่วโลกต่างให้ความสำคัญผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งหากผู้ประกอบการสามารถทำตามยุทธศาสตร์ทั้ง 4 Go จะทำให้เอสเอ็มอีในภาคการผลิตของไทย สามารถยกระดับความสามารถในการแข่งขันได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน 

ความคิดเห็น


Answer News

Call Us On

บริษัท เอ็มทีเอส คอนเนคชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด

Contact Us

  • Facebook
  • X
  • Youtube
  • TikTok

Follow us

Answer News Industrial ©2025 MTS Connections Groups Co.,Ltd สงวนลิขสิทธิ์

Answer News

Call Us On

บริษัท เอ็มทีเอส คอนเนคชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด

Contact Us

  • Facebook
  • X
  • Youtube
  • TikTok

Follow us

bottom of page