top of page

“วงษ์สยามก่อสร้าง” คว้างานเมกาโปรเจกต์

We're VSK

มุ่งมั่นพัฒนาอย่างยั่งยืน

“วงษ์สยามก่อสร้าง” เดินหน้างานยักษ์ “ระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก” สัญญา 30 ปี สร้างรายได้แก่รัฐ 25,000 ลบ. พร้อมชูโครงการขนาดใหญ่แห่งปี ตอกย้ำ 47 ปีแห่งคุณภาพ ด้วยประสบการณ์ในการทำงานและวางแผนงานที่มีประสิทธิภาพ

                คุณอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคารต่างๆ งานจัดหาและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และมีความชำนาญด้านงานรับเหมาระบบประปา ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Answer News Industrial Magazine ว่า ปัจจุบัน บริษัทดำเนินธุรกิจมากว่า 47 ปี ด้วยประสบการณ์และองค์ความรู้ต่างๆ ตลอดจนเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความทันสมัยได้นำมาใช้งาน พร้อมรองรับในการให้บริการลูกค้าให้หลากหลายด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับความเชื่อมั่นมาอย่างยาวนาน

          บริษัทเริ่มจดทะเบียนก่อตั้งเมื่อปี 2519 เริ่มต้นธุรกิจจากการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารจนได้รับยอมรับจากกลุ่มลูกค้า และเติบโตมาตามลำดับ ด้วยวิสัยทัศน์และโอกาสทางธุรกิจผนวกกับศักยภาพของบริษัทที่ได้เล็งเห็นถึงช่องทางในการเติบโต และต่อยอดจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ในปี 2525 บริษัทจึงได้เริ่มขยายธุรกิจเข้าสู่งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคด้านน้ำ และการบริหารจัดการระบบประปา ทั้งระบบสูบน้ำดิบ ระบบผลิตน้ำประปา บำรุงรักษาระบบประปา ระบบท่อส่งน้ำดิบ ลดน้ำสูญเสีย และงานวางท่อส่งน้ำ หรือซ่อมท่อส่งน้ำ เป็นต้น  

       สำหรับผลงานที่เป็นโครงการเด่นของบริษัท คือ โครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกของกรมธนารักษ์ ซึ่งบริษัทสามารถชนะการประมูลและได้ลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา มูลค่าผลประโยชน์ตอบแทนตลอดอายุสัญญา 30 ปี รวมกว่า 25,000 ล้านบาท

 

       รวมทั้ง โครงการก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งโครงการดังกล่าว บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถคว้างานได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ภายหลังจากการประกาศราคายื่นประมูลโครงการของแต่ละบริษัท พบว่า บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้เสนอราคายื่นเสนอราคา 6,150 ล้านบาท และเป็นราคาที่ต่ำที่สุด โดยปัจจุบัน ความคืบหน้าของโครงการอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการประมูลโครงการ และคาดว่าจะทราบผลได้ในช่วงเดือนกันยายน 2566

“ด้วยประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจก่อสร้างมากว่า 47 ปี เรามีความเชี่ยวชาญและความชำนาญในการดำเนินธุรกิจและพร้อมที่จะขยายไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบน้ำประปา โดยเราได้เข้าร่วมการประมูลโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และมีความมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการงานให้เป็นไปตามมาตรฐานและเกณฑ์ที่กำหนดไว้” คุณอนุฤทธิ์กล่าว

VONGSAYAM KORSANG

                          คุณอนุฤทธิ์กล่าวว่า  นอกจาก 2 งานโครงการขนาดใหญ่ข้างต้นแล้ว บริษัทได้ชนะการประมูลอีกจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการก่อสร้างระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ (ฝั่งซ้าย) โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองหญ้าปล้อง อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี มูลค่างาน 499 ล้านบาทและ 2. โครงการก่อสร้างถังน้ำใสขนาด 20,000 ลูกบาศก์เมตร ที่สถานีสูบจ่ายน้ำลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 406 ล้านบาท

 

          รวมทั้ง ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่ได้เล็งเห็นถึงช่องทางในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจกลางน้ำ ทดแทนการจัดซื้อจากผู้ผลิตรายอื่น หรือการนำเข้าจากต่างประเทศ จึงได้เริ่มการลงทุนในโรงงานผลิตเหล็กเคลือบสี (บริษัท Empower Steel) ซึ่งจากเดิม บริษัท ซันเทคสตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) ในเครือกลุ่ม บริษัท เพิ่มสินสตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) (PERM) ดำเนินธุรกิจแปรรูปและจำหน่ายแผ่นเหล็กเคลือบสีรายใหญ่ในอุตสาหกรรม เพื่อนำไปใช้เป็นหลังคาและผนังอาคารโรงงานและสิ่งก่อสร้างต่างๆ อยู่แล้ว จึงนับเป็นการขยายฐานลูกค้าในธุรกิจเดิม และรุกขยายไปยังลูกค้ารายใหม่

     โครงการงานก่อสร้างปรับปรุงขยาย การประปาส่วนภูมิภาค สาขาอุดรธานี-หนองคาย-หนองบัวลำภู อ.เมืองอุดรธานี-เพ็ญ-หนองวัวซอ จ.อุดรธานี อ.เมืองหนองคาย-สระใคร จ.หนองคาย อ.เมือง-โนนสัง จ.หนองบัวลำภู มีกำลังการผลิต 4,000 ลบ.ม ต่อชั่วโมง ความคืบหน้าของโครงการแล้วเสร็จประมาณ 95% (ข้อมูลเมื่อเดือนธันวาคม 2565)

          รวมทั้ง โครงการปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้แก่ งานวางท่อส่งน้ำ และงานเครื่องกลไฟฟ้า งบประมาณในการก่อสร้าง 782 ล้านบาท โดยงานก่อสร้างหลักประกอบไปด้วย 1.บริเวณสถานีผลิตน้ำบ้านนาทราย ก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปา สามารถผลิตน้ำได้ไม่น้อยกว่า 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน รวมทั้งงานวางท่อขนาด dia. 100-1,200 มิลลิเมตร และงานโยธาอื่นๆ 2.บริเวณสถานีจ่ายน้ำควนท่ากูบ ก่อสร้างงานวางท่อขนาด dia. 800-1,000 มิลลิเมตร และอุปกรณ์ประกอบต่างๆ และ 3.บริเวณสถานีจ่ายน้ำแสงเพชร ก่อสร้างงานวางท่อขนาด dia. 500 มิลลิเมตร และอุปกรณ์ประกอบต่างๆ

 

         “การที่เราสามารถคว้างานโครงการก่อสร้างต่างๆมาจากประสบการณ์ในการทำงานและวางแผนงานที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงจากการที่บริษัทมีการบริหารจัดการโครงการก่อสร้างต่างๆ ด้วยตนเอง โดยไม่ได้มีการว่าจ้างภายนอกดำเนินการแทน จึงทำให้สามารถควบคุมและลดต้นทุน อีกทั้ง การก่อสร้างและการดำเนินงานต่างๆ ยังอยู่ภายใต้การควบคุมให้เป็นไปตามมาตรฐานและตามที่กฎหมายกำหนดด้วย” คุณอนุฤทธิ์กล่าว

          

         สำหรับแผนการแปรสภาพเข้าสู่การเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ โดยคาดว่าจะพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในปี 2568 ซึ่งการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดจะส่งผลดีในเรื่องของระบบการกำกับกิจการที่ดี มีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ตลอดจนช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

          คุณอนุฤทธิ์กล่าวต่อว่า บริษัทก่อตั้งขึ้น เมื่อปี 2519 ดำเนินธุรกิจก่อสร้างอาคารและถนน ต่อมาได้เข้าสู่ธุรกิจก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคด้านน้ำ ในปี 2525 และเมื่อธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2554 ได้ขยายเข้าสู่ธุรกิจบริหารจัดการท่อส่งน้ำ ระบบส่งจ่ายน้ำประปา การลดน้ำสูญเสียการบริหารระบบท่อส่งน้ำ และในปี 2558 ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้มีคุณสมบัติในการรับจ้างงานก่อสร้าง ชั้นที่ 1 ของการประปาส่วนภูมิภาคการรับจ้างงานก่อสร้าง ชั้นที่ 1 (พิเศษ) ของกรมบัญชีกลาง สาขางานชลประทาน

VONGSAYAM KORSANG

          โดยตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจของบริษัทล้วนผ่านปัญหาวิกฤตต่างๆ มากมาย ทั้งจากภายนอกและภายใน แต่ด้วยนโยบายการทำงานของบริษัทที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา จึงทำให้สามารถผ่านพ้นปัญหามาได้ และด้วยการที่บริษัทเน้นรับงานจากภาครัฐจะต้องมีการบริหารจัดการอย่างรัดกุมและป้องกันปัญหาหรือผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

          ประกอบกับ ปัญหาจากสภาวะเศรษฐกิจและเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและนักลงทุนทั่วโลก แม้ว่าบริษัทจะเกิดผลกระทบจากเรื่องแรงงานอยู่บ้าง แต่ก็มีมาตรการในการดูแลและป้องกันการติดเชื้อให้กับแรงงานเป็นอย่างดี จึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนักและสามารดำเนินงานโครงการก่อสร้างอย่างราบรื่น

          ส่วนสิ่งที่ตนมองว่าเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ตลอดระยะเวลา 47 ปีที่ผ่านมา ได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางจากจากลูกค้าเรื่อยมา จะมาจากการดำเนินธุรกิจและการก่อสร้างที่มีมาตรฐานสากลและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ทั้งในเรื่องการคำนวณหาต้นทุนและควบคุมงบการก่อสร้างให้ถูกต้อง รวมไปถึงการให้บริการที่สร้างความประทับใจแก่ลูกค้าในทุกด้านที่ลูกค้าต้องการได้ครบถ้วน

      ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้รับการประเมินและผ่านการรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001 : 2015 หรือ มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ ซึ่งสามารถการันตีได้ถึงการบริหารจัดการองค์กรที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการรับรองมาตรฐานสถานประกอบการ สถานที่ก่อสร้าง และแคมป์ที่พักแรงงาน สะอาดปลอดภัย ป้องกันโรค COVID-19 จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และอื่นๆ อีกมากมาย

        คุณอนุฤทธิ์กล่าวตอกย้ำถึงจุดเด่นของบริษัทว่าด้วยการดำเนินธุรกิจที่มีความตรงไปตรงมาจึงทำให้เกิดความประทับใจกับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความทันสมัยเข้ามาใช้งาน และล่าสุดเตรียมที่จะพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะยิ่งทำให้ระบบการบริหารจัดการต่างๆ มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

“เราขอขอบคุณพันธมิตรทางธุรกิจทุกบริษัทที่ให้การสนับสนุนการจัดทำข่าวในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสในการนำเสนอความสำเร็จที่เราและพันธมิตรทุกรายได้ร่วมกันพัฒนาจนประสบความสำเร็จและเติบโตร่วมกันให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น” คุณอนุฤทธิ์กล่าว

Vongsayam Korsang Co., Ltd.

This is a paragraph where you can include any information you’d like. It’s an opportunity to tell a story about the company, describe a special service it offers, or highlight a particular feature that sets it apart from competitors. Make sure it fits the general tone and voice of the brand, then adjust the font, size or scale to customize the style.

First and Last Name

Subtitle Here

          คุณอนุฤทธิ์กล่าวตอกย้ำถึงจุดเด่นของบริษัทว่าด้วยการดำเนินธุรกิจที่มีความตรงไปตรงมาจึงทำให้เกิดความประทับใจกับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความทันสมัยเข้ามาใช้งาน และล่าสุดเตรียมที่จะพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะยิ่งทำให้ระบบการบริหารจัดการต่างๆ มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

          นอกจากนี้ บริษัทยังมีความพร้อมของทีมงานฝ่ายต่างๆ ที่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ทั้งในส่วนของบุคลากรภายในสำนักงาน ทีมวิศวกรและทีมแรงงานก่อสร้าง อาทิ ร่วมเยี่ยมชมเขตส่งเสริมนวัตกรรมระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) และเยี่ยมชมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการวิจัยขยายผลสู่ภาคอุตสาหกรรม ทั้งเมืองนวัตกรรมชีวภาพ (BIOPOLIS) และเมืองนวัตกรรมหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (ARIPOLIS)

          รวมทั้ง เข้าเยี่ยมชมและศึกษาเทคโนโลยีระบบควบคุมและประเมินผลแบบศูนย์รวม (Supervisory Control And Data Acquisition หรือ SCADA) ของ Rockwell Automation และทดสอบระบบใน CEC Room ซึ่งบริษัทได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาพัฒนาใช้ในโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกและบริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร เพื่อให้เกิดเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ก่อให้เกิดมุมมองใหม่และนำมาพัฒนาบริษัทให้เติบโต

          คุณอนุฤทธิ์กล่าวต่อถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารงานและบุคลากรว่า ในการทำงาน ตนสอนลูกน้องเสมอว่า การส่งงานทุกครั้งต้องคิดว่าตนไม่รู้และไม่เข้าใจอะไรเลย ดังนั้น เมื่อนำเสนองานต้องมีการแจกแจงรายละเอียดของงานในส่วนต่างๆและทำให้คนที่ไม่รู้สามารถเข้าใจได้ง่าย จึงถือว่าการนำเสนองานประสบความสำเร็จและทีมงานมีความเข้าใจในรายละเอียดงานอย่างแท้จริง

     ด้วยประสบการณ์มากว่า 47 ปี เรามีความเชี่ยวชาญและความชำนาญในการดำเนินธุรกิจและพร้อมที่จะขยายไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบน้ำประปา โดยได้เข้าร่วมการประมูลโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการให้เป็นไปตามมาตรฐานและเกณฑ์ที่กำหนดไว้

      ด้านวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการคืนกำไรสู่สังคม หรือ CSR บริษัทได้ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการก่อตั้งมูลนิธิฟ้าช่วยการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส ในการสนับสนุนงบประมาณส่งเสริมการศึกษาให้กับเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ปัจจุบัน มีเยาวชนที่อยู่ภายใต้โครงการประมาณ 12 คน อีกทั้ง บริษัทยังได้มีจัดกิจกรรมทางด้านการบำรุงศาสนา โรงพยาบาล และอื่นๆ เป็นประจำในทุกปี

bottom of page