เท็นมะ (ประเทศไทย) คว้า Green Industry ปี 66 ชูนโยบายด้านความปลอดภัย ตั้งเป้าขึ้นเป็นเบอร์ 1 สาขาต่างประเทศ
บริษัท เท็นมะ (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองครบรอบ 23 ปี รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ประจำปี 2566 พร้อมเปิดวิสัยทัศน์Mr. Kenichi Hoshi ผู้บริหารระดับสูง ถึงทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศไทย ยกระดับกลุ่มธุรกิจการค้าการแข่งขันในระดับสากล
Mr. Kenichi Hoshi President Director บริษัท เท็นมะ (ประเทศไทย) จำกัด และตำแหน่ง Director General Manager Overseas Production Division ของ Tenma Corporation เปิดโอกาสให้กองบรรณาธิการ Answer News Industrial Magazine สัมภาษณ์
โดยโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ระยอง หลักๆ จะดำเนินการผลิตสินค้า โดยมีชิ้นส่วนของอุปกรณ์สำนักงาน Office Automation (OA) ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งเป็นชิ้นส่วนของเครื่องปรับอากาศที่ผลิตให้กับแบรนด์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงเกือบทั้งหมด โดยจะมียอดขายอยู่ที่ 30% และ 50% ตามลำดับ และส่วนที่เหลือจะเป็นสินค้าประเภทชิ้นส่วนยานยนต์ ส่วนโรงงานของเท็นมะที่จังหวัดปราจีนบุรี จะผลิตชิ้นส่วนของอุปกรณ์สำนักงาน Office Automation (OA) 100% และเป็นโรงงานที่เราดำเนินการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ ถือเป็นโรงงานที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของกลุ่มลูกค้าด้านการผลิตสินค้าเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ โรงงานของ เท็นมะ (ประเทศไทย) นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ระยอง ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งกับเท็นมะกรุ๊ป เมื่อปี 2011 ภายใต้การบริหารจัดการภายในเครือ เท็นมะ กรุ๊ป ซึ่งปัจจุบันอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ด้วยข้อกำหนดและกฎเกณฑ์การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น คือต้องมีปริมาณ (PBR) มากกว่า 1% ขึ้นไป และในส่วน Return on Equity (ROE) ต้องมี 8% ขึ้นไป ซึ่งเป็นหลักการของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่นล้อมกรอบ “เท็นมะ กรุ๊ป มีสาขาในต่างประเทศ ที่เป็นสาขาหลักๆ 3 สาขา แต่ละสาขาจะมียอดขาย เกิน 4,000 ล้านบาท/ปี”
สำหรับ ‘เท็นมะ กรุ๊ป’ มีสาขาในต่างประเทศที่เป็นสาขาหลักๆ อยู่ 3 สาขา ประกอบด้วย เท็นมะ (ประเทศจีน)มีจำนวน 1 โรงงาน, เท็นมะ (ประเทศเวียดนาม) มีจำนวน 2 โรงงาน และเท็นมะ (ประเทศไทย) มีจำนวน 2 โรงงาน โดยในแต่ละสาขาจะมียอดขายเกิน 4,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งถือว่าประเทศไทยเป็นสาขาที่สำคัญ เพราะมียอดขายเกิน 5,000 ล้านบาท/ปี ด้วยการวางแผนการลงทุนในระยะกลาง (Medium Term Plan) ปัจจุบันอยู่ในการดำเนินแผนงาน ครั้งที่ 3 และจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2567 จึงจะเริ่มเข้าสู่การดำเนินแผนงาน ครั้งที่ 4 ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2567 ณ ปัจจุบันทางฝ่ายบริหารกำลังดำเนินการประชุมถึงแผนการดำเนินงาน ครั้งที่ 4 ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่างการพิจารณา และปรึกษาหารือกันกับทีมผู้บริหารที่ประเทศญี่ปุ่นถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจ อีกครั้ง
ส่วนแผนดำเนินงานครั้งที่ 3 นี้ Mr. Hoshi บอกว่าบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ถือเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก และเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ก็พบกับปัญหาภาวะสงครามของประเทศยูเครน บวกกับปัญหาภาวะเงินเฟ้อในตลาดโลกส่งผลกระทบต่อการค้าขาย เพราะสถานการณ์ทั่วโลกที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่วางเป้าหมายเอาไว้ไม่เป็นไปตามแผนงาน ซึ่งในแผน ครั้งที่ 4 ที่จะเริ่มขึ้นในเดือนเมษายนในปี 2567 บริษัทฯ พยายามปรับกลยุทธ์เพื่อสอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อทำให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือกลับมาฟื้นตัว
TENMA (THAILAND)
โดยแผนการลงทุน Medium Term Plan ของประเทศไทย บริษัทฯ วางเป้าหมายในเรื่องของยอดขายอีก 3 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นอีก 250 ล้านบาท แต่การที่จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นมานั้น ย่อมต้องมีการลงทุนเพิ่มขึ้นตามมาด้วย โดยโรงงานของ เท็นมะ (ประเทศไทย) ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง มีแผนที่จะขยายพื้นที่คลังสินค้าเพื่อจัดเก็บสินค้าให้ได้มากขึ้น โดยจะมีปรับพื้นที่ไลน์ประกอบ (Assembly) และจะนำระบบ Auto Rack เฟสที่ 2 เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้สูงมากขึ้น และหลังจากการย้าย กลุ่ม Assembly เรียบร้อยแล้ว และในแผนการดำเนินงานเพื่อเพิ่มยอดขายให้ได้ 250 ล้านบาท บริษัทจะดำเนินการเพิ่มเครื่องจักร (Injection Machine) มาเสริมทัพเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้แล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2568 เพื่อที่จะสามารถเพิ่มยอดขายให้เป็นตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้
อีกทั้ง การนำระบบ Automation เข้ามาช่วยดำเนินการในส่วนของ Digital Transformation (DX) ที่จะนำมาใช้กับโรงงานทั้ง 2 แห่งในประเทศไทย ส่วนสาเหตุที่มีการเพิ่มเครื่องจักรในครั้งนี้ ด้วยนโยบายด้านการลดต้นทุนการผลิต ตลอดจนลดในเรื่องของแรงงานด้วยปัจจัยในด้านค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้น เทียบเท่าอัตราค่าจ้างในประเทศญี่ปุ่น เราจึงมีการวางแผนเพื่อรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และในอีก 5 ปีข้างหน้า ทางบริษัทฯ จะนำเรื่อง Business Continuity Planningหรือ ‘BCP’ เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ รวมถึงยอด Order จากประเทศจีนที่จะนำมาผลิตที่ประเทศไทย และประเทศเวียดนาม
ตลอดจนเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ บริษัท เท็นมะ (ประเทศไทย) จำกัด นำมาใช้เพื่อสร้างความแตกต่างของการดำเนินธุรกิจ โดยจะนำระบบ Automation ที่คิดค้นจากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงระบบที่อำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือในการทำงานจากบุคลากร ทั้งในเรื่องของการนำ Robot และระบบ Jig เข้ามาช่วยดำเนินการ โดยในกลุ่มงานที่สามารถใช้ระบบ Automation ได้ก็จะดำเนินการปรับปรุง แต่หากส่วนที่ยังคงต้องพึ่งแรงงานคนก็ยังคงดำเนินการตามเดิม รวมถึงระบบ KATSU JIN เป็นการดำเนินงานในรูปแบบของการสะสมสามารถผลิตได้หลากหลายโมเดล และ Lot ต้องมีปริมาณที่น้อยโดยเราจะสะสมไปเรื่อยๆ เพื่อช่วยในเรื่องของการลดต้นทุน และค่าแรงงานมีการนำหลักการ 3R : Reuse Reduce Recycle มาใช้ภายในโรงงานเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และมีทีมงานคอยดูแลระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิดและให้พนักงานในทุกระดับขององค์กรมีส่วนร่วม
สำหรับมาตรฐานสากลต่างๆ ที่โรงงานของเท็นมะ (ประเทศไทย)จำกัด ได้รับและสร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้า ได้แก่ มาต รฐาน ISO 9001:2015, ISO 14001:2015, ISO 45001:2018 และมาตรฐานIATF16949:2016 เนื่องจากเราเน้นในเรื่องของความปลอดภัยมาเป็นอันดับ 1 และในส่วนของ เท็นมะ กรุ๊ป ได้มีการทำกิจกรรม ESG (Environmental, Social and Corporate Governance) การดำเนินธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนตลอดจนกำหนดในเรื่องสิ่งแวดล้อม และวัตถุดิบต่างๆ
ตลอดจนโครงการหรือกิจกรรมการ CSR ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน ทางบริษัท ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ ได้มีการช่วยเหลือ สังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 1. ในปี 2556 ได้มีการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ใน จ.ปราจีนบุรี จ.ลพบุรี 2.ในปี 2557 ทำการมอบเหล็กให้แก่มูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม 3.ในปี 2558 ทำการมอบท่อเหล็กให้มูลนิธิคนพิการ 4.ในปี 2559 ให้การช่วยเหลือชาวนา ด้วยการซื้อข้าวจากชาวนา เพื่อนำมาแจกให้กับชุมชนในพื้นที่ตั้งของบริษัท 5.ในปี 2560 ทำการบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ให้กับพี่น้องภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย 6.ในปี 2564 มอบเครื่องติดตามสัญญาณชีพให้กับ รพ.สมุทรสาคร ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 7.ในปี 2565 ทำการมอบเครื่องวัดความดันให้กับ รพ. สมุทรสาคร เพื่อช่วยสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์
คุณณิชวดี กล่าวถึงแผนการลงทุน อีกว่า หลังจากกลุ่มเป้าหมายเราชัดเจน ยอดขายเรามีมาอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น จึงเริ่มวางแผนการลงทุนเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดี เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการลงทุนอัพเกรดเครื่องจักรเดิมเพื่อปรับปรุงศักยภาพการผลิตให้เป็นแบบ HybridTechnology ให้ใช้พลังงานน้อยลง มีการนำพลังงานสะอาด พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่ได้มาจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ (Solar cell) ปัจจุบันจำนวน 1 เมกะวัตต์ มาทดแทนพลังงานที่ใช้ในการผลิตในสัดส่วน 20% และวางแผนที่จะลงทุนเพิ่มเป็น 2 เมกะวัตต์ รวมถึงกำลังพิจารณาเพิ่มเครื่องจักรใหม่ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีการลงทุนในซอฟต์แวร์ระบบจัดการ OEE. มีการติดตั้งบ่อบำบัดน้ำเสียเพื่อลดการปล่อยน้ำเสียออกสู่ชุมชน, เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าในปี 2568 เราจะลดการใช้พลังงานภายในโรงงานลงให้ได้มากกว่า 40% และก้าวสู่โรงงานสีเขียว (Green Factory) อย่างเป็นระบบและเต็มรูปแบบ ซึ่งการลงทุนให้โรงงานเกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ก็เป็นหนึ่งปัจจัยในการเตรียมความพร้อมให้ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อย่างยั่งยืนเช่นกัน
TENMA (THAILAND)
ล่าสุด เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัท เท็นมะ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ระดับ 3ประจำปี 2566 จากกระทรวงอุตสาหกรรม ด้วยการดำเนินงานด้านการจัดการระบบสิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง เพื่อประกอบกิจการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการติดตั้ง Solar Panelและเริ่มใช้งานที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ระยอง จังหวัดระยอง ส่งผลให้ลดการเกิด CO2 รวมถึงวางแผนติดตั้ง Solar Panel ในพื้นที่ที่ยังไม่ติดตั้ง เพื่อนำไปสู่การขยายธุรกิจในอนาคต
รวมถึงวางแผนที่จะนำ Solar Panel ไปติดตั้งที่ เท็นมะ (ประเทศเวียดนาม) ซึ่งปัจจุบันตัว Solar Panel ได้ทำการติดตั้งและใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้วณ มณฑลจงซาน ประเทศจีน โดยการที่จะติดตั้ง Solar Panel นั้น จะต้องมีการพิจารณาองค์ประกอบที่มีความหลากหลายของพื้นที่โรงงาน และปัจจัยอื่นๆ ที่ค่อนข้างเข้มงวดเป็นอย่างมาก
ส่วนตัวเครื่อง Injection Machine นั้น เราจะเริ่มทยอยเปลี่ยนเครื่องจากเดิมที่เป็นระบบไฮดรอลิก เปลี่ยนมาเป็นระบบไฟฟ้า จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าจะถูกลงประมาณ1 ส่วน 3 การนำตัวเครื่อง Injection Machine เข้ามาดำเนินการก็เพื่อที่จะหลอมละลายพลาสติกทำให้เม็ดพลาสติกละลายโดยผ่านความร้อน รวมถึงการนำไซเลนเดอร์โคฟเวอร์ ใส่เข้าไปจะทำให้ค่าไฟลดลงประมาณ 50% โดยโครงการนี้จะริเริ่มขึ้นประเทศไทย ทำการทดลองที่โรงงานเท็นมะ จังหวัดปราจีนบุรี และในปี 2567 จะนำไปใช้ใน เท็นมะ กรุ๊ป ทั่วโลก
"เท็นมะ กรุ๊ป มีสาขาในต่างประเทศที่เป็นสาขาหลักๆ 3 สาขา
แต่ละสาขาจะมียอดขาย เกิน 4,000 ล้านบาท/ปี"
TENNMA (THAILAND)
This is a paragraph where you can include any information you’d like. It’s an opportunity to tell a story about the company, describe a special service it offers, or highlight a particular feature that sets it apart from competitors. Make sure it fits the general tone and voice of the brand, then adjust the font, size or scale to customize the style.
First and Last Name
Subtitle Here
“โดยส่วนตัวพึ่งเข้ามาประจำการที่ บริษัท เท็นมะ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เพียงครึ่งปี มีความรู้สึกว่ามีพลังบวกในการขับเคลื่อนต่อการทำงานทุกๆ วัน โดยรู้สึกว่าที่ญี่ปุ่นอาจจะไม่ค่อยพบเจอสิ่งเหล่านี้ ถ้าโรงงานที่ประเทศไทยดำเนินการในรูปแบบนี้ได้อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าเราจะสามารถเดินตามบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นได้ทัน และในฐานะที่ดำรงตำแหน่งฝ่ายบริหารใน เท็นมะ กรุ๊ป มีความตั้งใจให้ เท็นมะ (ประเทศไทย) เป็นอันดับ 1 ของสาขาต่างประเทศ คู่กับยอดขายเป็นอันดับ 1 ในเท็นมะ กรุ๊ป เช่นเดียวกัน สุดท้ายนี้ขอขอบคุณกลุ่มซัพพลายเออร์ ที่ร่วมสนับสนุน และเป็นสปอนเซอร์การจัดทำในครั้งนี้ สำหรับในส่วนของ Green Industry เรายังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ” Mr. Hoshi กล่าวปิดท้าย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการทำกิจกรรม ESG เนื่องจากปัจจุบันหลายๆ หน่วยงาน หรือองค์กร ตลอดจนลูกค้าของเราต่างให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจในการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยตลอดระยะเวลา 23 ปีที่ผ่านมา ของบริษัท เท็นมะ (ประเทศไทย) จำกัด เราเน้นย้ำในเรื่องความปลอดภัย ควบคู่กับเรื่องคุณภาพ การขนส่ง และเรื่องของราคา ซึ่งราคาตรงนี้ไม่ได้หมายถึง ราคาถูก แต่หมายถึงราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพ และด้วยประสบการณ์ ชื่อเสียง ที่ทางบริษัทฯ ได้สะสมมาทำให้ลูกค้าไว้วางใจ