เจาะลึก ข่าวจริง ยิงประเด็นข่าวสร้างสรรค์
ส่งตรงและเข้าถึงผู้ประกอบการทั่วประเทศ
S.R PE GROUP ฉลอง 25 ปีแห่งความสำเร็จ
ประกาศเปิดตัวโรงงานแห่งใหม่ ชูธุรกิจสู่การค้าสากล
บริษัท เอส.อาร์ พีอี กรุ๊ป จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายท่อและอุปกรณ์ HDPE สำหรับการใช้งาน ลำเลียงน้ำ ร้อยสายไฟ ร้อยสายสัญญาณ ภายใต้เครื่องหมายการค้า SR ที่ได้การยอมรับจากลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ โดยจากจุดเริ่มต้นที่ผลิตท่อขนาดเล็ก จนในปัจจุบันได้มีการพัฒนาจนสามารถผลิตท่อขนาดใหญ่ขึ้นมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางยาวถึง 1.20 เมตร และมีความหนาสามารถตอบโจทย์ต่อการนำมาใช้งานทั้งหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนได้เป็นอย่างดี
บริษัทมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้ามาอย่างต่อเนื่อง ผ่านงานวิจัยที่คิดค้นร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศและได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการพัฒนาสินค้าที่มีการนำนวัตกรรมผสมผสาน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ใช้งานอย่างสูงสุด
ปัจจุบัน บริษัทได้รับอนุสิทธิบัตรสินค้านวัตกรรมโดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาหลายรายการ อาทิ ท่อลอนพอลิเอทิลีนเสริมเหล็ก, ถังเก็บน้ำชนิดลอนพอลิเอทิลีนเสริมเหล็ก และบ้านน๊อคดาวน์ชนิดลอนพอลิเอทิลีนเสริมเหล็ก เป็นต้น ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ตอบรับความต้องการของท้องตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาให้แก่นานาประเทศได้เป็นอย่างดี
ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ของ ‘เอส.อาร์ พีอี กรุ๊ป’ มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ที่ผลักดันเข้าแข่งขันในตลาดและได้รับกระแสตอบรับดีกว่าที่คาดหมายไว้ ทำให้ปัจจุบันโรงงานทั้ง 2 แห่งใน จ.สมุทรสาคร มีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการขยายกำลังการผลิตสินค้าเดิมและพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้ง พื้นที่จัดเก็บสินค้าที่ไม่เพียงพอด้วยเช่นกัน ทำให้บริษัทได้ลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ บนพื้นที่รวมกว่า 120 ไร่ ใน ต.หนองชุมพล อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
โรงงานแห่งใหม่ยังรวมเอากระบวนการผลิตของ 2 โรงงานเดิมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตรวมแล้วประมาณ 2,500 ตัน/ปี เป็นโรงงานที่รวบรวมการผลิตท่อและอุปกรณ์ HDPE สำหรับประปา, ท่อร้อยสายไฟ และสายสื่อสาร รวมทั้งเป็นโรงงานสำหรับผลิตสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ ท่อลอนพอลิเอทิลีนเสริมเหล็ก, ท่อลอนพอลิเอทิลีนเสริมลวดเหล็ก โดยเป็นการติดตั้งเครื่องจักรเดิมประมาณ 80% และอีก 20% จะเป็นการติดตั้งเครื่องจักรใหม่รองรับการผลิตสินค้านวัตกรรมตัวใหม่ๆ ที่คาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวในปี 2568 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้นในปัจจุบันและอนาคต
โดยใช้งบประมาณในการพัฒนาเฟสแรก ประมาณ 200 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างอาคารโรงงาน มีการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ที่ควบคุมการผลิตด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI), ติดตั้งระบบสายพานการผลิตอุปกรณ์แบบอัจฉริยะ และแขนกลอัจฉริยะ ทำให้กระบวนการผลิตเกิดเสถียรภาพและลดความผิดพลาดที่เกิดจากคน สามารถควบคุมและกำหนดคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานมากที่สุด