
“วีเอ็นเอส พร็อพเพอร์ตี้” จับมือ กนอ. ร่วมพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแพรกษา อินดัสเทรียลล์ (Bhakasa Industrial) ล่าสุดก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานแล้วเสร็จ มียอดจองพื้นที่แล้วกว่า 65% พร้อมโชว์จุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งสะดวกสบายเชื่อมต่อในทุกการเดินทาง ตอบโจทย์นักลงทุนได้อย่างลงตัว
คุณกวี ศิริภัทร์ กรรมการบริษัท พร้อมด้วย คุณกิตติพงศ์ เพชรมณเฑียร ผู้อำนวยการโครงการนิคมอุตสาหกรรมแพรกษา อินดัสเทรียลล์ (Bhakasa Industrial)บริษัท วีเอ็นเอส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หรือ VNS ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Answer News Industrial Magazine ว่า บริษัทได้ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ. ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแพรกษา อินดัสเทรียลล์ (Bhakasa Industrial) รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมขนาดเบาถึงกลาง อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น โดยจะเน้นโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชนโดยรอบพื้นที่

ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% พร้อมรองรับนักลงทุนที่มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนภายในนิคมฯ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเป็นอย่างมากมีการจับจองพื้นที่ภายในนิคมฯ แล้วกว่า 65% นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่บริเวณทางเข้านิคมฯ ที่สามารถรองรับการพัฒนาเชิงพาณิชย์ และที่อยู่อาศัย (Commercial) ได้ในอนาคตด้วย
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมแพรกษา อินดัสเทรียลล์ (Bhakasa Industrial) ตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนหนึ่งของที่ดินบริษัททั้งหมด 1,139 ไร่ในตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ โดยนิคมฯ ได้เริ่มพัฒนาพื้นที่เฟสแรก ประมาณ 650 ไร่แบ่งเป็น พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้า ประมาณ 482 ไร่, พื้นที่ระบบสาธารณูปโภคและระบบสาธารณูปการกว่า 101 ไร่ และพื้นที่สีเขียวและแนวกันชนกว่า 66 ไร่

ผู้บริหารกล่าวต่อถึงวัตถุประสงค์ในการพัฒนาโครงการนิคมฯ ว่า ด้วยบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาที่ดินดังกล่าว และได้คำนึงถึงค่านิยมองค์กร 6 ประการ (SIX CORE VALUES) ของ CP ซึ่งเน้นด้าน 3 ประโยชน์ (3 Benefit) ซึ่งเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ ประชาชน และองค์กร ด้วยค่านิยมองค์กรนี้จึงได้มีการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมขึ้น ก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สังคมเกิดการพัฒนา และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ตามเป้าประสงค์ที่ตั้งไว้
ด้านกลุ่มเป้าหมายลูกค้าหลักมาจากนักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมบริเวณใกล้เคียงที่ต้องการขยายการลงทุนแต่พื้นที่เต็มแล้ว และนักลงทุนจากภายนอกพื้นที่ที่มีความสนใจในการเข้ามาลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเป็นหลัก ครอบคลุมไปถึงกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่มีความสนใจด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ในปัจจุบันพื้นที่นิคมฯ สำหรับการลงทุนก่อสร้างโรงงานที่สามารถเชื่อมต่อและอยู่ใกล้กับกรุงเทพมหานครและใกล้รถไฟฟ้ามีไม่มากนัก จึงทำให้โครงการนิคมฯ แพรกษา อินดัสเทรียลล์ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกัน ในการจัดตั้งและพัฒนานิคมฯ ดังกล่าว บริษัทได้ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย โดยเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการพัฒนาโครงการ ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนและกำหนดขอบเขตในการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ ตามแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชน
รวมทั้ง มีการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทางสังคมในกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อรวบรวมความคิดเห็น ข้อห่วงกังวล และข้อเสนอแนะ มากำหนดแนวทางในการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมมีความครบถ้วนและรอบด้านมากที่สุด เพื่อให้การพัฒนาโครงการเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนน้อยที่สุดด้วย

สำหรับจุดเด่นของนิคมฯ ด้วยประสบการณ์ในการปฏิบัติงานอย่างมุ่งมั่นของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่พัฒนานิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศมากว่า 40 ปี ทำให้บริษัทได้ร่วมพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแพรกษา อินดัสเทรียลล์ อาทิ เรื่องการป้องกันและวางแผนรับมือปัญหาน้ำท่วม เป็นต้น ซึ่งประเด็นสำคัญที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมากจึงทำให้บริษัทมีการวางแผนรองรับได้ล่วงหน้า
“ในระหว่างการศึกษาเรื่อง EIA และทำประชาพิจารณ์ เราได้เจอช่วงฝนตกหนักและพื้นที่ใกล้เคียงเกิดน้ำท่วมพอดี จึงถือว่าเป็นโอกาสดีที่ทำให้เราได้เห็นสถานการณ์จริงและสามารถคำนวณวิธีการรับมือได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเราได้มีการสร้างบ่อหน่วงน้ำฝนเพื่อป้องกันน้ำท่วม ดำเนินการถมดินภายในพื้นที่ให้สูงขึ้นและมีแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมรอบโครงการที่สูงประมาณ 1.6 เมตรจากระดับน้ำทะเล และยังเป็นนิคมฯ ที่มีแนวกันชนตามหลักนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยรอบพื้นที่โครงการ (Buffer Zone) ด้วย” ผู้บริหารกล่าว

ขณะเดียวกัน ทำเลที่ตั้งของนิคมฯ ยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีแพรกษา เพียง 5 กิโลเมตร ห่างจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 25 กิโลเมตร โดยสามารถเดินทางเข้าสู่พื้นที่โครงการได้อย่างสะดวกหลายเส้นทาง เช่น จากถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ ถนนตำหรุ-บางพลี ถนนกิ่งแก้ว ถนนเทพารักษ์ เข้าสู่ถนนแพรกษาหรือถนนพุทธรักษา ก็จะพบทางเข้านิคมฯ
นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อกับท่าเรือสำคัญขนาดใหญ่ อาทิ ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง เป็นต้น ประกอบกับความพร้อมด้านแรงงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ทั้งแรงงานไทยและประเทศเพื่อนบ้านอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นพื้นที่ที่มีแรงงานรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมได้ดี
รวมทั้ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในนิคมฯ ประกอบด้วย ถนนสายประธาน 4 ช่องจราจร มีเขตทางกว้างประมาณ 25 เมตรและถนนสายรองประธาน ขนาด 20 และ 16 เมตรตามลำดับ, ระบบระบายน้ำได้ออกแบบตามข้อกำหนดของ กนอ. โดยแยกระบบระบายน้ำฝนและน้ำเสียออกจากกัน, น้ำเสีย ที่เกิดขึ้นจากโรงงานอุตสาหกรรมจะถูกรวบรวมไปบำบัดยังระบบบำบัดน้ำเสียของโครงการ ซึ่งเป็นระบบแบบตะกอนเร่ง Sequencing Batch Reactor (SBR) สามารถบำบัดน้ำเสียได้สูงสุด 2,500 ลบ.ม.ต่อวัน

สำหรับการจัดการน้ำเสียที่เกิดขึ้นทางนิคมฯ กำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้าและอาคารสำนักงานระบายน้ำเสียเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง โดยควบคุมลักษณะคุณสมบัติของน้ำเสียตามประกาศของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และน้ำเสียภายหลังผ่านการบำบัดจะมีการควบคุมคุณภาพน้ำให้มีค่าตามเกณฑ์กำหนดของประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการป้องกันและลดผลกระทบต่อคุณภาพผิวดินบริเวณแหล่งรองรับน้ำหลังการบำบัด
โดยนิคมฯ จะควบคุมค่าความสกปรกของน้ำในรูปของบีโอดี (BOD) และมีการเติมอากาศบริเวณบ่อพักน้ำทิ้งหลังผ่านการบำบัด (Holding Pond) เพื่อควบคุมปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ (DO) ควบคู่กับ การติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพน้ำแบบต่อเนื่อง (BOD/COD Online) เพื่อตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้งก่อนเข้าสู่บ่อพักน้ำทิ้ง (Holding Pond) กรณีคุณภาพน้ำทิ้งหลังผ่านการบำบัดมีค่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของน้ำทิ้งที่กำหนดไว้ จะสูบน้ำเสียดังกล่าวเข้าไปยังบ่อพักน้ำฉุกเฉิน (EmergencyPond) ซึ่งสามารถรองรับน้ำเสียได้ไม่น้อยกว่า 1 วัน เพื่อส่งกลับเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่สีเขียวและแนวกันชนโดยรอบพื้นที่โครงการ (Buffer Zone) มีขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 10 เมตร โดยปลูกต้นไม้ที่เป็นพันธุ์ไม้สามารถลดผลกระทบจากมลพิษทางอากาศได้เป็นอย่างดี ได้มีการสร้างบ่อหน่วงน้ำฝน จำนวน 4 บ่อซึ่งสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนส่วนเกินได้อย่างเพียงพอ รวมทั้ง ยังเป็นบ่อพักน้ำที่ลดปัญหาน้ำท่วมภายในนิคมฯ และภายนอกนิคมฯ

ตลอดจนจัดกิจกรรม Roadshow เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการให้คนในชุมชนทราบถึงการเข้ามาทำกิจกรรมเพื่อชุมชนโดยมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน, ให้ความรู้ในด้านโภชนาการที่เกี่ยวกับความต้องการพลังงานจากอาหารใน 1 วันในแต่ละช่วงอายุ และให้ความรู้ในเรื่องของการแยกขยะ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้จัดขึ้นที่ เทศบาลตำบลแพรกษา, โรงเรียนแพรกษาวิเทศศึกษา, โรงเรียนแพรกษาวิทยา และโรงเรียนวัดแพรกษา จังหวัดสมุทรปราการ
ผู้บริหารกล่าวปิดท้ายว่า บริษัทขอขอบคุณซัพพลายเออร์และพาร์ทเนอร์ที่ได้ให้การสนับสนุนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทำให้บริษัทสามารถที่จะพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแพรกษาอินดัสเทรียลล์ ได้สำเร็จ โดยซัพพลายเออร์และพาร์ทเนอร์ต่างเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในวงการนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ทำให้เราได้เรียนรู้และนำคำแนะนำต่างๆ มาปรับใช้และพัฒนาร่วมกัน และเรายังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองต่อนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในโครงการของเรา
นอกจากนี้ “นิคมอุตสาหกรรมแพรกษา อินดัสเทรียลล์”เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่มีขนาดพื้นที่กว่า 650 ไร่ ซึ่งในปัจจุบันมียอดขายไปแล้วกว่า 65% หากนักลงทุนรายใดมีความสนใจสามารถเข้ามาเยี่ยมโครงการได้โดยนัดหมายล่วงหน้า และที่สำคัญ ด้วยทำเลที่ตั้งในจังหวัดสมุทรปราการ มีโซนสำหรับลงทุนก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไม่มากนัก แต่นิคมฯ แพรกษาสามารถรองรับได้ จึงอยากให้รีบตัดสินใจและสามารถติดต่อได้ที่ บริษัท วีเอ็นเอส พร็อพเพอร์ตี้จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ 096-828-8888 หรือที่อีเมล bhakasaindustrial@truecorp.co.th

Comments