ไอโคโค (ประเทศไทย) เนรมิตสร้างโรงงานใหม่ รองรับตลาดมะพร้าวโต

_______________________________________________________________________________________________

“ไอโคโค (ประเทศไทย)” เปิดแผนการลงทุนทุ่มงบกว่า 150 ลบ. ผุดอาคารโรงงานใหม่ และติดตั้งเครื่องจักรผลิตสินค้ามะพร้าวให้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์รองรับความต้องการของตลาดต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมชูมาตรฐานสากลการันตีมะพร้าวน้ำหอมคุณภาพ สร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในหลายประเทศทั่วโลก

_______________________________________________________________________________________________

คุณปกรณ์ จันทะยาสาคร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอโคโค (ประเทศไทย) จำกัดผู้ผลิตมะพร้าวน้ำหอมพร้อมดื่มคุณภาพสูงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดโลก ให้สัมภาษณ์พิเศษในโอกาสก่อสร้างอาคารโรงงานหลังใหม่และขยายไลน์การผลิตว่าบริษัทได้ทุ่มงบประมาณกว่า 150 ล้านบาท ในการก่อสร้างอาคารโรงงานใหม่และติดตั้งเครื่องจักร ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จและจะสามารถเดินไลน์การผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายปีนี้

โดยอาคารโรงงานดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่อาคารโรงงาน3 ไร่ และอีก 3 ไร่ เป็นพื้นที่รองรับวัตถุดิบ เพื่อรองรับการขยายไลน์ธุรกิจใหม่และสามารถผลิตสินค้าได้อย่างครอบคลุม ซึ่งเมื่อเดินเครื่องจักรเชิงพานิชย์แล้วจะสามารถผลิตน้ำมะพร้าวสดได้ประมาณ 70 ตันต่อวัน และผลิตเนื้อมะพร้าวได้ประมาณ 30-40 ตันต่อวัน ทั้งนี้ ยังได้รับการออกแบบให้เป็นโรงงานสำหรับการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ที่สามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในรูปแบบแช่แข็งได้อีกด้วย อาทิ ทุเรียนแช่แข็ง หรือลำไยแช่แข็ง และอาหารแปรรูปแช่แข็ง เป็นต้น

สำหรับวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างอาคารโรงงานใหม่เริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ของทางผู้บริหารที่ได้เล็งเห็นถึงการดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์มะพร้าวน้ำหอมให้ครบวงจรประกอบกับแนวโน้มความต้องการของตลาดในประเทศจีนมีความต้องการผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวน้ำหอมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของมะพร้าวน้ำหอมพร้อมดื่มน้ำมะพร้าวน้ำหอม และเนื้อมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งจะทำให้เพิ่มช่องทางการเติบโตให้กับธุรกิจและรองรับกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น

“ในช่วงเริ่มต้น เราได้ผลิตเกี่ยวกับมะพร้าวน้ำหอมสดและในปัจจุบันความต้องการของตลาดในประเทศจีนและหลายประเทศทั่วโลกกำลังเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เราจึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะขยายไลน์ธุรกิจให้ครอบคลุม ในทุกกระบวนของการผลิตที่เกี่ยวข้องกับมะพร้าวซึ่งนอกจากการการเพิ่มไลน์การผลิตแล้ว อาคารโรงงานแห่งใหม่นี้ยังได้คำนึงมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหาร (Food Safety) อีกด้วย”คุณปกรณ์กล่าว

คุณปกรณ์กล่าวต่อถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาว่า บริษัทมีการควบคุมคุณภาพของมะพร้าวน้ำหอมทุกลูก ตั้งแต่กระบวนการปลูกการบำรุงดิน การเก็บข้อมูลการใส่ปุ๋ย การจัดเก็บปุ๋ยที่ถูกต้อง การตัดเมื่อครบตามกำหนด และกระบวนการบรรจุที่ตรงตามมาตรฐานของ Global GAP ซึ่งเป็นมาตรฐานภาคเอกชนสำหรับการผลิตสินค้าเกษตรของกลุ่มผู้ค้าปลีกในยุโรป ที่ลูกค้าในหลายประเทศทั่วโลกให้การยอมรับ

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้ควบคุมคุณภาพในเรื่องของสายพันธุ์มะพร้าวที่ไม่นำมะพร้าวกลายพันธุ์หรือมีความแก่หรืออ่อนเกินกว่าที่กำหนดมาจัดจำหน่าย ซึ่งในการจัดส่งไปต่างประเทศต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร อาจทำให้มะพร้าวเน่าเสียหรือส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจและสุขลักษณะของลูกค้าได้ รวมทั้งบริษัทได้มีการพัฒนาปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง เช่น เดิมจำหน่ายเพียงมะพร้าวควั่น ปัจจุบันได้มีการใส่บรรจุแบบใส่ฟิล์มหด (Shrink Film) และการใส่สลักเจาะมะพร้าวพร้อมดื่ม เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเจาะดื่มได้อย่างสะดวก เป็นต้น

ด้าน คุณตัน เซาหยู  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอโคโค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงมาตรฐานสากลที่บริษัทได้ผ่านการรับรองว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องและเข้ารับการประเมิน ตรวจสอบตามระบบมาตรฐานสากลอยู่เสมอ โดยในปัจจุบัน บริษัทได้ผ่านการรับรองมาตรฐานต่างๆ อาทิ มาตรฐานการรับรองความปลอดภัยสำหรับการผลิตอาหาร (FSSC 22000), มาตรฐานระบบการจัดการความปลอดภัยของอาหาร (ISO 22000), ฮาลาล, GMP (Good Manufacturing Practice), SMETA (Sedex Members EthicalTrade Audit)

รวมทั้ง ผ่านการตรวจสอบระบบควบคุมคุณภาพในภาคอุตสาหกรรมน้ำผลไม้ในสหภาพยุโรปและเป็นสมาพันธ์อุตสาหกรรมน้ำผลไม้นานาชาติ (SGF), มาตรฐานภาคเอกชนสำหรับการผลิตสินค้าเกษตรของกลุ่มผู้ค้าปลีกในยุโรป (Global GAP) และในปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการขอรับการรับรองมาตรฐานออแกนิคคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือนถึงจะทราบผลการประเมิน ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจว่าจะผ่านการประเมินอย่างแน่นอน

“เรามีการส่งออกจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในหลายประเทศ ล้วนมีมาตรฐานที่สูงในการคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพเข้าไปจำหน่าย ซึ่งจากการที่เราได้พัฒนามาตรฐานมาอย่างต่อเนื่องทำให้ได้รับความไว้วางใจจากห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่ง ปัจจุบัน เรามีสัดส่วนในการส่งออกมะพร้าวน้ำหอมไปจำหน่ายในต่างประเทศกว่า 99% โดยมีตลาดหลักอยู่ในประเทศจีนกว่า 59% และที่เหลือจะเป็นตลาดในประเทศญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, เกาหลี, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอีกหลายประเทศในโซนยุโรป” คุณตัน เซาหยูกล่าว

ผู้บริหารทั้งสองท่านได้กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ อาคารโรงงานใหม่และไลน์การผลิตคาดว่าจะเริ่มเดินไลน์เชิงพานิชย์ได้และจะเป็นส่วนสำคัญที่จะเข้าเสริมในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับมะพร้าวให้ครบวงจร รวมทั้ง บริษัทมีแผนปรับรูปแบบในการดำเนินธุรกิจจากเดิมที่เป็นรูปแบบ B2B โดยในปี 2568 จะเริ่มสร้างแบรนด์และเริ่มทำตลาดแบบ B2C เพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นบริษัททางด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดของจีนในการร่วมกันพัฒนาเมนูอาหารที่จะนำเนื้อของมะพร้าวน้ำหอมมาเป็นส่วนประกอบสำคัญบนอาหาร นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายช่องทางการตลาดในการนำผลิตภัณฑ์มะพร้าวน้ำหอมของไทยไปบุกตลาดในประเทศจีนให้ครอบคลุมมากขึ้น ตลอดจนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่จัดขึ้นในประเทศเยอรมนี, สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และฮ่องกง เป็นต้น

ผู้บริหารทั้งสองท่านกล่าวปิดท้ายว่า มะพร้าวน้ำหอมเป็นเครื่องดื่มชนิดเดียวในโลกที่มาจากธรรมชาติ มีความหอม ความหวานที่ได้จากธรรมชาติ และเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ เรามองว่ามะพร้าวน้ำหอมของไทยยังสามารถที่จะเติบโตได้อีกไกลซึ่งหากมีการควบคุมคุณภาพให้คงที่ ราคาต้นทุนไม่สูง ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้และบริโภคได้ทุกวัน และเรามีเป้าหมายที่จะทำให้มะพร้าวน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะอยู่ในชีวิตประจำวันของแต่ละคนด้วย

นอกจากน้ำมะพร้าวแล้ว เรายังมีเป้าหมายในการนำเนื้อมะพร้าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งการนำไปใส่เป็นส่วนผสมในเค้ก ขนมปัง อาหารและผสมในเครื่องดื่มต่างๆ มากขึ้น ซึ่งด้วยเอกลักษณ์ของมะพร้าวน้ำหอม ที่มีความหอมหวานอย่างโดดเด่นจะสามารถนำมาทดแทนการแต่งสีหรือแต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติได้

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ให้ความสำคัญต่อการปลูกและจำหน่ายมะพร้าวน้ำหอมที่เป็นสายพันธุ์แท้ 100% และการทำสวนมะพร้าวแบบ Ecosystem ที่ควบคุมต้นทุนได้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมให้สามารถผลิตน้ำมะพร้าวน้ำหอมแบบขวดออกจำหน่ายในรูปแบบ B2C ซึ่งการจำหน่ายแบบขวดจะช่วยให้พกพาได้สะดวก ดื่มได้ทุกที และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากกว่าการจำหน่ายเป็นมะพร้าวสดทั้งลูก

ส่วนคุณไชยภพ สุขศรี ผู้อำนวยการสายงานสนับสนุน และผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ บริษัท ไอโคโค (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวว่า บริษัทขอขอบคุณซัพพลายเออร์ทุกท่านที่ให้การสนับสนุนในการจัดทำข่าวในครั้งนี้ ตลอดจนขอขอบคุณที่เป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของไอโคโคมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งซัพพลายเออร์หลายบริษัทได้ร่วมงานกันมาอย่างยาวนานและทราบดีแล้วว่าตลาดมะพร้าวน้ำหอมส่งออกมีแนวโน้มที่เติบโตต่อเนื่อง บริษัทจึงอยากให้มีการเติบโตร่วมกันด้วย

สำหรับสิ่งที่อยากจะฝากถึงผู้อ่าน Answer News Industrial Magazine ด้วยบริษัท ไอโคโค (ประเทศไทย) จำกัด มีโรงงานตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี และตนก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอุตสาหกรรมลุ่มแม่น้ำแม่กลอง จึงอยากจะฝากและนำเสนอผลิตภัณฑ์ของ “ไอโคโค” ที่เติบโตจากการส่งเสริมพืชท้องถิ่นและบริษัทยังคงมุ่งพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดีมีคุณภาพยิ่งๆ ขึ้นควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป