“นอร์ทเทอร์นกลาส” ยืนหนึ่งนวัตกรรมกระจกแปรรูป

บริษัท นอร์ทเทอร์นกลาส จำกัด ก้าวสู่ปีที่ 20 ของการดำเนินธุรกิจลุยขยายการลงทุนกระจกแปรรูปโชว์กระจกขนาดยาว 10 เมตร รายแรกในประเทศไทยและอาเซียน ตอกย้ำการเป็นบริษัทชั้นนำการผลิตสินค้าที่มีประสิทธิภาพ รองรับตลาดภายในประเทศสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

คุณเอื้ออังกูร อัครชัยไพศาล ประธาน บริษัท นอร์ทเทอร์นกลาส จำกัด ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Answer News Industrial Magazine เกี่ยวกับการขยายการลงทุน ว่า บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2547 ปัจจุบันย่างเข้าปีที่ 20 เราทำกระจกที่มีขนาดยาว 10 เมตร ซึ่งเป็นกระจกยาวที่สุดในประเทศไทย และในอาเซียน อาทิ ‘กระจกเทมเปอร์’ กระจกที่เพิ่มความแข็งแรงต้องเป็นกระจกเทมเปอร์ ที่สามารถทนต่อแรงกระทบได้มากกว่ากระจกธรรมดา 3 ถึง 5 เท่า ‘กระจกลามิเนต’ เป็นกระจกนิรภัยชนิดหนึ่ง ที่เวลาแตกแล้วเศษกระจก จะยึดติดกันโดยไม่ร่วงหล่น เพราะมีชั้นฟิล์มที่ยึดเกาะระหว่างแผ่นกระจกเหมือน ใยแมงมุม ซึ่งเราผลิตได้ใหญ่สุดถึง 10 เมตร เพื่อมา Support กลุ่มลูกค้าที่ต้องการความแปลกใหม่ และเป็นอีก 1 ทางเลือกให้กับผู้บริโภค

ส่วนกระบวนการผลิตกระจกแปรรูปที่มีความยาว 10 เมตร บริษัทฯ มีไลน์การผลิตเป็นของเราเอง โดยทำการติดตั้งมาได้ประมาณ 3 ปี ถือว่าเป็นไลน์การผลิตที่เริ่มต้น ปัจจุบันเรากำลังทำผลิตภัณฑ์กระจกแปรรูปกันกระสุน ถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งอยู่ในช่วงของการทดสอบ ซึ่งความพิเศษของกระจกนั้นตรงขนาดที่มีลักษณะค่อนข้างบาง หรือบางที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อลดน้ำหนักของกระจก ซึ่งบริษัทฯ กำลังพัฒนา ควบคู่กับการคิดค้นตัวกระจก เพื่อให้มีคุณสมบัติที่ไม่ก่อให้เกิดเศษกระจก หลีกเลี่ยงการกระทบต่อลูกค้า หรือผู้ที่ใช้งาน โดยคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ภายในปี 2566 นี้ ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างกระบวนการทดสอบประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญกระจกประเภทนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่น้ำหนักเบา หากดำเนินการสำเร็จ จะถือว่า บริษัท นอร์ทเทอร์น กลาส จำกัด เป็นรายแรกที่ทำการผลิตในประเทศไทย

ด้านแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ คุณเอื้ออังกูร บอกว่า ในระยะสั้น เราจะเน้นดูแลและการบริการลูกค้า ตลอดจนการส่งมอบสินค้าให้ทันต่อเวลาที่ลูกค้ากำหนด ถือเป็นโจทย์ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจยุคปัจจุบัน ที่ต้องแข่งขันกันในเรื่องของการบริการต่อลูกค้า นอร์ทเทอร์นกลาส จึงวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนรถที่ใช้ในการขนส่งสินค้า พร้อมกับปรับปรุงแผนการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค และเพื่อให้ได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ในระยะกลาง และระยะยาว นั้น เราวางแผนที่จะเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ท้องตลาด เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยจะเน้นในเรื่องของคุณภาพ และเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ควบคู่กับคุณสมบัติของกระจกที่มีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน อีกทั้ง ยังได้มีการทำ Content ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์กระจกแปรรูป ซึ่งในแวดวงผู้ประกอบการธุรกิจกระจก ถือว่าบริษัท นอร์ทเทอร์นกลาส จำกัด ของเรามีการทำ Content ใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง

‘นอร์ทเทอร์นกลาส’ เรามีข้อได้เปรียบทางธุรกิจตรงที่บริษัทฯ มีสต็อกสินค้ากระจกที่มีขนาดใหญ่สามารถตอบโจทย์ และรองรับปริมาณความต้องการของตลาด หรือกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยที่ลูกค้าของเราไม่ต้องเสียเวลาในการรอสินค้า

“เราทำกระจกแปรรูปที่มีความยาวที่สุดทั้งในประเทศไทย และในอาเซียน ถ้าหากลูกค้ากำลังมองหาหรือต้องการกระจกที่มีความยาวขนาดเกิน 6 เมตร เชื่อว่า บริษัท นอร์ทเทอร์นกลาส จำกัด สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแน่นอน อีกทั้ง สีที่กระจกของเราที่มีลักษณะเฉพาะตัว อาทิ สีที่แตกต่างจากสีกระจกทั่วไปในท้องตลาด หรือสีที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศไทย”

คุณเอื้ออังกูร กล่าวถึง การแข่งขันในธุรกิจประเภทนี้ว่า การแข่งขันของกลุ่มธุรกิจประเภทนี้ถือว่าค่อนข้างสูง ซึ่งจะแข่งขันในเรื่องของราคา ประกอบกับปัจจุบันผลิตภัณฑ์กระจกแปรรูปจากประเทศจีน เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ยิ่งทวีในเรื่องของการแข่งขันมากขึ้น และมาชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากผู้ประกอบการที่เป็นคนไทย

นอกจากการแข่งขันเรื่องของราคาแล้ว เรื่องคุณภาพ และระยะเวลาในการจัดส่งสินค้า รวมถึงวัตถุดิบในการทำกระจก ด้วยปัจจัยเหล่านี้ บริษัทฯ ถือว่าค่อนข้างได้เปรียบในด้านการแข่งขัน ถึงแม้ว่าบริษัทฯ เพิ่งเข้ามาทำธุรกิจเกี่ยวกับกระจกแปรรูปที่มีความยาว 10 เมตร เพียงแค่ 3 ปี แต่ตำแหน่งทางการตลาดของเราถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ซึ่งโครงการโดดเด่นที่สร้างชื่อเสียงให้แก่บริษัทฯ ทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง อาทิ สกายวอล์คผาเงาสามแผ่นดิน ที่วัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย, โครงการ SIAM PREMIUM OUTLETS BANGKOK รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียม และโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ

สำหรับเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ นั้น บริษัทฯ จะยังคงรักษากำลังการผลิตให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น แต่จำนวนทรัพยากรยังคงเท่าเดิม รวมถึงการสร้าง Capacity ให้เพิ่มขึ้น โดยที่จำนวนยอดขายต้องมีความสอดคล้องกับกำลังการผลิต ซึ่งบริษัทฯ วางเป้าการเติบโตของปี 2566 ประมาณ 20% เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ดีขึ้น ภายหลังจากมีการเลือกตั้ง อีกทั้ง การเติบโตของตลาดกระจกแปรรูปในประเทศไทยยังค่อนข้างเปิดกว้าง หากมีการกระตุ้นถึงความต้องการตัวผลิตภัณฑ์กระจก ก็จะส่งผลให้ลูกค้าเกิดความต้องการ หรืออยากได้ในตัวผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีการทำ Content ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระจกแปรรูป ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเป็นการสร้างความรับรู้ในตัวสินค้า และก่อให้เกิดความต้องการสินค้าตามมานั่นเอง

“ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เราเพิ่งเริ่มต้นทำตัวผลิตภัณฑ์กระจกแปรรูปที่มีความยาว 10 เมตร ควบคู่กับการศึกษา แก้ไขปรับปรุงทุกอย่างเพื่อให้ได้กระจกที่มีคุณภาพดีขึ้น เรามีการเพิ่มมูลค่าของตัวผลิตภัณฑ์กระจก พร้อมกับศักยภาพที่ดีขึ้น ถ้าหากเราไม่มีการเพิ่มมูลค่า หรือเพิ่มศักยภาพ เราก็จะคงอยู่ในวังวน กับรูปแบบเดิมๆ ของการดำเนินธุรกิจ และโดยส่วนตัวเรายังคงทำ Content เกี่ยวกับกระจกที่คอยอธิบายรายละเอียด คุณสมบัติต่างๆ ของกระจกเพื่อเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่สนใจก็อยากจะฝากให้ติดตาม บริษัท นอร์ทเทอร์นกลาส จำกัด เรายินดีที่จะให้คำแนะนำ และมีความพร้อมที่จะให้บริการต่อลูกค้าทุกท่าน” คุณเอื้ออังกูร ฝากทิ้งท้าย