“ไทยพรีเมี่ยมไพพ์” ฉลองก้าวสู่ปีที่ 21 รับมาตรฐาน Green Industry เตรียมแผนมุ่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
บริษัท ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ จำกัด โชว์ศักยภาพหลังได้รับการรับรองเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว
ระดับ 3 หรือ Green Industry
พร้อมก้าวเข้าปีที่ 21 ของการดำเนินงานธุรกิจ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน “เตรียมแผนมุ่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์”
บริษัท ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ จำกัด โชว์ศักยภาพหลังได้รับการรับรองเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 3 หรือ
Green Industry พร้อมก้าวเข้าปีที่ 21 ของการดำเนินงานธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน “เตรียมแผนมุ่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์”
คุณณิชวดี วงศ์ทองคำ รองกรรมการบริหารฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ จำกัด ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Answer News Industrial Magazine ว่า บริษัท ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ จำกัด เดิมทีมีชื่อว่า บริษัท สยามมิลเลนเนี่ยม สตีล โปรดักส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2545 บนพื้นที่ 52 ไร่ ในจังหวัดสมุทรสาคร ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ จำกัด ภายใต้การบริหารงานของ คุณวิไล สกุลวรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) โดยตอนเข้ามาร่วมงานกับ บริษัทฯ ในช่วงแรก ได้รับโจทย์จากผู้บริหารที่ว่า “อยากให้ไทยพรีเมี่ยมไพพ์แตกต่างจากผู้ผลิตท่อเหล็กรายอื่นๆ และอยากให้บริษัทฯ มีรายได้หล่อเลี้ยงพนักงานทุกคนให้พนักงานทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่ด้วยกันไปนานๆ” ตอนที่ได้ยินครั้งแรกมีความรู้สึกว่า“แปลกใจเพราะนักธุรกิจส่วนใหญ่ ทำธุรกิจก็ต้องการผลกำไรเป็นอันดับแรก แต่สำหรับ ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ คือ ต้องการให้พนักงานมีงานทำ มีรายได้เลี้ยงครอบครัว” เลยรู้สึกประทับใจในตัวผู้บริหารมากๆ แล้วก็คิดต่อไปว่าแต่โจทย์ของทางผู้บริหารไทยพรีเมี่ยมไพพ์มีความต้องการ ค่อนข้างยาก จึงหันกลับมาถามตัวเอง เราจะทำสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่
หลังจากนั้นเริ่มดำเนินการด้วยการประเมินศักยภาพของโรงงาน วิเคราะห์ตลาด ประเมินความเป็นไปได้และกำหนดกลยุทธ์ใหม่ให้กับไทยพรีเมี่ยมไพพ์ และก็นำเสนอกับผู้บริหาร โดยได้บอกว่า “ถ้าตกลงตามข้อมูลที่เสนอไป เราจะพยายามสู้สุดพลังที่จะทำให้ได้ แต่ขอผู้บริหารเอาไว้นะว่า ต้องมีความอดทน เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลากว่าจะเห็นผลลัพธ์” ซึ่งผู้บริหารที่นี่ก็เข้าใจ
หากย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว ราคาเหล็กต่ำกว่าปัจจุบันค่อนข้างมาก ยอดขายหรือกำลังการผลิตจะขึ้นๆ ลงๆ ตามสถานการณ์ มีปัจจัยหลายอย่างที่เราควบคุมไม่ได้และจากโจทย์ที่ได้รับ เลยกำหนดกลุ่มตลาดให้กับไทยพรีเมี่ยมไพพ์ ให้ชัดเจน คือ กลุ่มที่ 1 ตลาดส่งออก ซึ่งก็ตรงใจกับทางผู้บริหาร และ กลุ่มที่ 2 เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีการใช้ท่อเหล็กอย่างต่อเนื่องสำหรับลูกค้าในประเทศ เน้นสินค้าสั่งผลิต ท่อเหล็กคุณภาพ มาตรฐานสูง สเปคการควบคุมสูง และเน้นการบริการ ณ วันนี้เราเริ่มเห็นผลลัพธ์และความสำเร็จอย่างชัดเจนแล้ว
สำหรับความสำเร็จตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีของ ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ เราส่งออกท่อเหล็กของเราไปยังหลายๆ ประเทศทั้งมาเลเซีย, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มอาเซียน เริ่มได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลายๆ ประเทศมากขึ้น และมียอดสั่งสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนตลาดในประเทศเราได้รับความไว้วางใจจากกลุ่ม Maker ผู้ใช้มากขึ้น โดยมีทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมไปกับลูกค้า เราขายท่อเหล็กมาตรฐานสูงให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มชิ้นส่วนประกอบยานยนต์และชิ้นส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มการเกษตร, กลุ่มสายพานลำเลียง, กลุ่มพาเลทเคลื่อนย้าย, กลุ่มท่องานระบบน้ำและงานระบบไฟและอุปกรณ์เชื่อมต่อ, กลุ่มงานเฟอร์นิเจอร์, กลุ่มระบบเสาไฟจราจร และอื่นๆ อีกหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ไทยพรีเมี่ยมไพพ์มียอดขายโตขึ้นและยอดกำลังจากการผลิตเติบโตขึ้นทุกๆ ปีอย่างต่อเนื่อง อาจไม่ได้เติบโตขึ้นมากแบบก้าวกระโดด แต่เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ แบบมั่นคง และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนเรากำลังเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
THAI PREMIURM PIPE
โดยกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีการสั่งซื้อต่อเนื่องลูกค้ารายใหม่เริ่มรู้จักและเริ่มสั่งซื้อเข้ามาหลายรายยอดขายตลาดในประเทศก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จากที่ผ่านมาในหลายๆ สถานการณ์ที่ทำให้เศรษฐกิจในประเทศไม่ดี หลายธุรกิจได้รับผลกระทบ เช่น ช่วงสถานการณ์น้ำท่วม, หรือสถานการณ์โควิด 19 ตอนนั้นทางทีมผู้บริหารก็คิดว่า เราอาจจะต้องหยุดการผลิต ลดวันทำงาน แต่กลับกัน เรียกได้ว่าเราแทบไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นซึ่ง ณ ขณะนั้นเรามีการหยุดการผลิตและพนักงานก็ร่วมใจกันโดยการยอมลดเงินเดือนตนเองเพื่อช่วยโรงงาน แต่ก็หยุดได้แค่เพียง 1 สัปดาห์ เพราะมีออเดอร์เข้ามาจึงทำให้ทางโรงงานกลับมาผลิตได้ปกติตามเดิม และปรับคืนเงินให้กับพนักงานเป็นปกติ
สืบเนื่องจากการที่เรากำหนดเป้าหมายทางการตลาดมุ่งสู่ลูกค้าหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ในสถานการณ์เดียวกันบางกลุ่มอุตสาหกรรมยอดสั่งซื้อลดลง ในขณะที่บางกลุ่มอุตสาหกรรมยอดสั่งซื้อเยอะขึ้น เราจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ฉะนั้น บททดสอบทุกอย่างที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้ถูกต้อง วันนี้ ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ มียอดขายโตขึ้นและยอดกำลังการผลิตเติบโตขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง อาจไม่ได้เติบโตขึ้นมากแบบก้าวกระโดด แต่เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ แบบมั่นคงจาก 20 ปี จนมาถึงวันนี้ ต้องบอกว่า มีความภูมิใจมาก ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ให้เริ่มเห็นและตอบโจทย์ตามที่ผู้บริหารต้องการได้แล้ว
คุณณิชวดี พูดถึง การที่บริษัทฯ ได้รับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ว่า เราเริ่มมีความคิดเรื่องการช่วยเหลือสังคมและชุมชนมาตั้งแต่ก่อตั้งโรงงานเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยบริษัทฯ ตั้งอยู่ในพื้นที่สีเขียวใกล้ชุมชน เราคิดมาตลอด เราจะมีส่วนช่วยเหลือชุมชนได้อย่างไร ตอนนั้นจึงหันมาดูภายในโรงงานตัวเอง ณ วันนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเราในการพัฒนาเรื่องอุตสาหกรรมสีเขียว Green Organization เรื่องแรกที่ได้ดำเนินการคือ เรื่องกองขยะส่งกลิ่นเหม็นและอาจก่อให้เกิดไฟไหม้เกิดควันพิษได้ บริษัทฯ มีการแยกขยะในโรงงาน เศษอาหารเปียกนำไปเลี้ยงปลาและหมักทำปุ๋ย หรือขยะแห้ง เช่น พลาสติก โฟม โดยเฉพาะช่วงโควิดที่ผ่านมา มีการแยกประเภทขยะแล้วนำมาขายให้กับคนที่รับซื้อเพื่อนำไป Recycle แล้วก็เริ่มให้ความรู้และปลูกฝังจิตสำนึกให้กับพนักงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการช่วยเหลือชุมชนเพื่อให้พนักงานทุกคนเห็นถึงความสำคัญและเข้าถึงมุมมองของผู้บริหาร บริษัทฯ จึงกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่และประชาสัมพันธ์สู่ภายนอกให้รับทราบไปแล้ว คือ “Green Steel for the Green World” ผลิตภัณฑ์เหล็กเพื่อโลกสีเขียวเรามีการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงนโยบายและเชิงระบบ
มีการนำหลักการ 3R : Reuse Reduce Recycle มาใช้ภายในโรงงานเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และมีทีมงานคอยดูแลระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิดและให้พนักงานในทุกระดับขององค์กรมีส่วนร่วม
โดยเมื่อไม่นานมานี้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับสภาวะเรือนกระจก เริ่มมีการจัดทำ Carbon Foot Print องค์กร ทางไทยพรีเมี่ยมไพพ์ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากนัก เนื่องจากเราเริ่มมานานแล้วแต่สิ่งที่เพิ่มขึ้น คือ การขยายออกสู่นอกโรงงาน เช่น การปลูกป่า ปลูกต้นไม้ที่โรงงาน และเริ่มปลูกต้นไม้บริเวณนอกพื้นที่โรงงาน ล่าสุด ทำการปลูกต้นไม้ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีกว่า 100 ไร่ ปัจจุบันเราได้ CFO 2.5% โดยตั้งเป้าต้องการทำให้ได้ต่ำกว่า 2.0% และท่อเหล็กของเราทุกรายการต้องมีค่า Carbon Foot Print Product (CFP) ที่ต่ำด้วยเช่นกัน นอกจากที่เรามีความภาคภูมิใจในตัวเองแล้ว ก็อยากให้ลูกค้าภูมิใจว่าการเลือกใช้ท่อเหล็กจากไทยพรีเมี่ยมไพพ์ นั้น ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและช่วยเหลือสังคม ชุมชน
ปัจจุบัน ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ มีการดำเนินการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (CFO) อย่างต่อเนื่อง และได้การรับรองเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว Green Industry ระดับ 3, เราตั้งเป้าพัฒนาไปถึงGreen Industry ระดับ 4 และ 5 ตามลำดับ อีกทั้งเราได้มีการยื่นขออนุญาตใช้ “Green Label” ผลิตภัณฑ์ฉลากสีเขียว จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยเรียบร้อยแล้ว
ตลอดจนโครงการหรือกิจกรรมการ CSR ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน ทางบริษัท ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ ได้มีการช่วยเหลือ สังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 1. ในปี 2556 ได้มีการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ใน จ.ปราจีนบุรี จ.ลพบุรี 2.ในปี 2557 ทำการมอบเหล็กให้แก่มูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม 3.ในปี 2558 ทำการมอบท่อเหล็กให้มูลนิธิคนพิการ 4.ในปี 2559 ให้การช่วยเหลือชาวนา ด้วยการซื้อข้าวจากชาวนา เพื่อนำมาแจกให้กับชุมชนในพื้นที่ตั้งของบริษัท 5.ในปี 2560 ทำการบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ให้กับพี่น้องภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย 6.ในปี 2564 มอบเครื่องติดตามสัญญาณชีพให้กับ รพ.สมุทรสาคร ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 7.ในปี 2565 ทำการมอบเครื่องวัดความดันให้กับ รพ. สมุทรสาคร เพื่อช่วยสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์
คุณณิชวดี กล่าวถึงแผนการลงทุน อีกว่า หลังจากกลุ่มเป้าหมายเราชัดเจน ยอดขายเรามีมาอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น จึงเริ่มวางแผนการลงทุนเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดี เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการลงทุนอัพเกรดเครื่องจักรเดิมเพื่อปรับปรุงศักยภาพการผลิตให้เป็นแบบ HybridTechnology ให้ใช้พลังงานน้อยลง มีการนำพลังงานสะอาด พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่ได้มาจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ (Solar cell) ปัจจุบันจำนวน 1 เมกะวัตต์ มาทดแทนพลังงานที่ใช้ในการผลิตในสัดส่วน 20% และวางแผนที่จะลงทุนเพิ่มเป็น 2 เมกะวัตต์ รวมถึงกำลังพิจารณาเพิ่มเครื่องจักรใหม่ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีการลงทุนในซอฟต์แวร์ระบบจัดการ OEE. มีการติดตั้งบ่อบำบัดน้ำเสียเพื่อลดการปล่อยน้ำเสียออกสู่ชุมชน, เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าในปี 2568 เราจะลดการใช้พลังงานภายในโรงงานลงให้ได้มากกว่า 40% และก้าวสู่โรงงานสีเขียว (Green Factory) อย่างเป็นระบบและเต็มรูปแบบ ซึ่งการลงทุนให้โรงงานเกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ก็เป็นหนึ่งปัจจัยในการเตรียมความพร้อมให้ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อย่างยั่งยืนเช่นกัน
THAI PREMIUM PIPE
ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทฯ เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนได้นั้น เราต้องแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้นเพื่อให้เรามี Supply Chain ที่แข็งแรง มุ่งเน้นและให้ความสำคัญเรื่องคน เรามีแผนพัฒนาเรื่องบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถให้ทันและทัดเทียมต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกและสถานการณ์ต่างๆ
แม้จะเป็นแรงงานต่างด้าว เราก็ให้สำคัญเช่นกัน เรามีแรงงานต่างชาติถูกกฎหมาย มีความสามารถสื่อสารได้ คุมเครื่องได้ และยังสามารถช่วยรับรองลูกค้าได้อีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ วางกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจของปี 2567 ด้วยการที่ ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ ก่อตั้งมากกว่า 20 ปี แต่เรามองตัวเราเองว่าเราเป็นน้องใหม่ในวงการอุตสาหกรรมเหล็กเสมอ
เราเริ่มจากการลองผิดลองถูก จากไม่รู้จนรู้ จากรู้อยู่แล้วต้องให้รู้มากกว่าเดิมขึ้นไปอีก เราไม่ได้มองว่าเราต้องแข่งกับใคร เราแข่งกับตัวเอง แข่งกับเป้าหมายของตัวเราเอง ส่งผลให้มีการฝึกฝนพัฒนาอยู่ตลอด เพราะเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่ง ลูกค้าก็ไม่เคยหยุดนิ่งเช่นกัน ตลอดจนเรื่องของมาตรฐานต่างๆ ที่ต้องเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทฯ ได้รับการรับรอง เช่น ISO 9001, ISO 14001, TIS, UL/FM, ILAC ISO/IEC17025, SIRIM, CE Mark, AEO, RoHS และอื่นๆ อีกมากมาย ในอนาคตเรากำลังได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตท่อ API
อีกทั้ง จุดเด่นด้านการบริการของ ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ มุ่งเน้นการบริการและการเข้าถึงได้ง่าย เราไม่เคยปฏิเสธความต้องการของลูกค้า พยายามทำทุกๆ ความคาดหวังของลูกค้าให้เป็นไปได้ และอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราเป็นพันธมิตรตัวจริง ราวกับว่าแต่งงานกันเป็นครอบครัวเดียวกัน โรงงานเราก็เหมือนโรงงานลูกค้า ลูกค้าสามารถเดินทางมาได้ตลอด เมื่อลูกค้าเติบโตเราก็เติบโตไปด้วย และเมื่อใดก็ตามที่ลูกค้าเกิดความเสียหายเราก็เสียหาย คนที่เป็นพันธมิตรกันจะมีอะไรช่วยเหลือกันมีน้ำใจต่อกัน ให้โอกาสกันพัฒนาไปด้วยกัน
“วันนี้ ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ มียอดขายและยอดการผลิตเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อาจไม่ได้เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่เติบโตขึ้นแบบมั่นคง......
จาก 20 ปี จนมาถึงวันนี้”
THAI PREMIURM PIPE
This is a paragraph where you can include any information you’d like. It’s an opportunity to tell a story about the company, describe a special service it offers, or highlight a particular feature that sets it apart from competitors. Make sure it fits the general tone and voice of the brand, then adjust the font, size or scale to customize the style.
First and Last Name
Subtitle Here
“บริษัท ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ จำกัด ขอขอบพระคุณพันธมิตรคู่ค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเรามาโดยตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 20 ปี ทุกๆ ท่านเป็นผู้มีพระคุณ และเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเรามาจนถึงทุกวันนี้เราสัญญาว่า เราจะมุ่งเน้นพัฒนาทั้งคุณภาพสินค้าและการบริการเพื่ออตอบสนองความต้องการของท่านอย่างดีที่สุดและสุดความสามารถ” คุณณิชวดี ฝากทิ้งท้าย
ส่วนเป้าหมายที่บริษัทฯ วางเอาไว้เริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ทั้งยอดขายที่เพิ่มขึ้นและมีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมจากในประเทศและลูกค้าจากต่างประเทศ ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีใครรู้จักเราเท่าไหร่ ดังนั้นปี 2567 คงจะเป็นปีที่จะเริ่มการประชาสัมพันธ์บริษัทฯ อย่างจริงจัง เพื่อให้บุคคลภายนอกได้รับรู้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าปัจจุบัน รวมถึงลูกค้ามุ่งหวังในอนาคต และแน่นอน เราไม่ลืมที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า Customer loyalty and customer engagement ให้มากขึ้น