เจาะลึก ข่าวจริง ยิงประเด็นข่าวสร้างสรรค์
ส่งตรงและเข้าถึงผู้ประกอบการทั่ว ประเทศ

18 ปี Ekornes เปิดแผนตั้งเป้าสู่ Hub ผลิตในภูมิภาคเอเชีย


จากประสบการณ์ 18 ปี บนเส้นทางธุรกิจเฟอร์นิเจอร์พรีเมียมสัญชาตินอร์เวย์ของ บริษัท อีคอร์เนส (ไทยแลนด์) จำกัด เดินหน้าวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจพร้อมเปิดวิสัยทัศน์แม่ทัพใหญ่ Mr.Ove Johnny Borgsø ผู้บริหารระดับสูง ถึงทิศทางอนาคตขององค์กรปี 2567 ปักหมุดขยายการลงทุนเปิดตลาดใหม่อย่างเป็นทางการ
Mr.Ove Johnny Borgsø, Managing Director, Ekornes (Thailand) Ltd. เปิดโรงงานจังหวัดฉะเชิงเทราให้ทีมกองบรรณาธิการ Answer News Industrial Magazine เข้าพบและเยี่ยมชมพร้อมให้สัมภาษณ์พิเศษ ในวาระครบรอบ 18 ปีของ
อีคอร์เนส (ไทยแลนด์) เกี่ยวกับความสำเร็จ ว่า ก่อนหน้าที่จะมาเป็น EKORNES นั้น บริษัทของเราได้ถือกำเนิดภายใต้ชื่อ IMG ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ โดยก่อตั้งโรงงานในไทยเมื่อปี 2006 หลังจากนั้นได้ก่อตั้งโรงงานที่เวียดนามและลิทัวเนีย และในปี 2016 บริษัท อีคอร์เนส กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำจากประเทศนอร์เวย์ ทำการเข้าซื้อบริษัท IMG เพื่อควบรวมธุรกิจเป็น อีคอร์เนส กรุ๊ป และเปลี่ยนชื่อมาเป็น บริษัท อีคอร์เนส (ไทยแลนด์) จำกัด


EKORNES (THAILAND)
ปัจจัยแห่งความสำเร็จของ อีคอร์เนส (ไทยแลนด์) เนื่องจากเรามี อีคอร์เนส กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่มี Warehouse กระจายอยู่ทั่วโลก สามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าของเราได้อย่างทั่วถึง อีกประการที่สำคัญ คือ มีแบรนด์ภายใต้บริษัท อีคอร์เนส ทั้งหมด 2 แบรนด์ ด้วยกัน คือ IMG และ Stressless โดยทั้ง 2 แบรนด์นี้ มีความแตกต่างกันในเรื่องของราคา กลุ่มเป้าหมายลูกค้า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มฐานลูกค้าได้กว้างมากขึ้น
สำหรับโรงงานของอีคอร์เนส (ไทยแลนด์) เป็นโรงงานที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์หนังเพื่อการส่งออก โดยมีผลิตภัณฑ์ อาทิ เก้าอี้ และโซฟา ภายใต้แบรนด์ IMG กับแบรนด์ Stressless ซึ่งมีจุดแข็งทางด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และเน้นคุณภาพสูง บวกกับความเชี่ยวชาญด้วยประสบการณ์มากว่า 30 ปี ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเรามีคุณภาพสูง เมื่อเทียบกับผู้ผลิตรายอื่นๆ และเป็นที่ยอมรับของกลุ่มลูกค้าในท้องตลาดทั่วโลกด้วยดีเสมอมา
ทุกๆ ขั้นตอนในภาคการผลิตบริษัทเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบต่างๆ เพื่อนำมาผลิตหรือประกอบเฟอร์นิเจอร์ เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นวัตถุดิบที่ดีที่สุด ต่อให้ระยะเวลาผ่านไปนานถึง 20 ปี เฟอร์นิเจอร์ของเราก็ยังคงสภาพและสามารถใช้งานได้ตามปกติ ดังตัวอย่าง โฟมที่บริษัทเลือกนำใช้เป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจะเป็นโฟมชนิดเดียวกันกับโฟมที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์
นอกจากคุณสมบัติที่กล่าวไปเบื้องต้น เรื่องของวัตถุดิบที่บริษัทเลือกใช้ในการทำเก้าอี้ เป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีที่สุด โดยหนังที่เรานำมาใช้จะเป็นหนังวัวเกรด Premium นำเข้า 100% จากประเทศอิตาลี และประเทศบราซิล ที่มาพร้อมกับความหรูหราแฝงไปด้วยความนุ่มนวลเวลานั่ง สามารถมั่นใจได้ว่าลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์จากเราไป นอกจากจะได้รับความหรูหรา สะดวก สบายและที่สำคัญผลิตภัณฑ์ของเรายังคง Concept เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ในส ่วนบริการหลังการขาย หากลูกค้าสนใจในผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าของบริษัทสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ www.imgcomfort.com ด้านบริการหลังการขาย เราจะมี Warranty แถมไปให้กับเก้าอี้ทุกๆ ตัว หากลูกค้าท่านใดใช้สินค้าของเราไปได้สักระยะ แล้วพบว่ามีปัญหาสามารถติดต่อบริษัทเพื่อแจ้งเคลมสินค้าได้ทันที
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เก้าอี้แบรนด์ที่เป็นของบริษัท นอกเหนือจากดีไซน์ที่มีความสวยงาม และมีคุณสมบัติคงทนแล้ว ยังเน้นความถูกต้องตามหลักของสรีรศาสตร์ ฉะนั้น ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของเราไปใช้งาน เมื่อใดก็ตามที่นั่งเก้าอี้จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกผ่อนคลาย

ด้านเทคโนโลยีการผลิต บริษัทได้นำเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยจากต่างประเทศ รวมถึง Knowhow ในกระบวนการผลิตต่างๆ จากบริษัทแม่ประเทศนอร์เวย์ เพื่อเข้ามาใช้งานในการผลิต ประกอบด้วย เครื่องจักรที่เป็นรูปแบบ Robot, เครื่องจักรกลอัตโนมัติที่ทำงานได้ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อทำการผลิตชิ้นส่วนวัสดุให้ได้ขนาดและรูปทรงตามที่ต้องการ หรือ Computer Numerical Control (CNC) โดยบริษัทได้ลงทุนเครื่องจักรเพื่อใช้ในด้านการผลิต ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานและได้ผลิตภัณฑ์สินค้าที่มีคุณภาพ รวมถึงลดในเรื่องของต้นทุนด้านการผลิต ตลอดจนห้องปฏิบัติการ (Laboratory) ในการทดสอบประสิทธิภาพของสินค้าเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานในระดับโลก ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในเรื่องของคุณภาพสินค้าที่ออกสู่ท้องตลาด รวมถึงการเข้าไป Support อุปกรณ์ต่างๆ ด้าน Production
ตลอดจนทีมงานด้าน R&D อยู่ทั้ง 2 แห่ง ประกอบด้วย ที่โรงงานในประเทศนอร์เวย์ และโรงงานของประเทศไทย โดยทีม R&D ในประเทศนอร์เวย์ จะเน้นการวิจัยและพัฒนาในเรื่องของการออกแบบสินค้าใหม่ๆ Scandinavian Design ที่โดดเด่นเรื่องของรูปแบบ รูปทรง หรือนวัตกรรม ส่วนทีม R&D ของไทย จะนำการวิจัยและพัฒนาของทางนอร์เวย์มาพัฒนาให้เป็นสินค้าได้จริงเหมาะสมกับอุปกรณ์และกระบวนการผลิตของโรงงานในประเทศไทย
.png)
.png)
.png)

EKORNES (THAILAND) NEWS

Mr.Ove Johnny Borgsø พูดถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ว่า เนื่องจาก บริษัท อีคอร์เนส (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทข้ามชาติ จึงอยากนำเสนอถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อแสดงให้ประชาชนในพื้นที่ หรือท้องถิ่น ได้เห็นว่าเรามีความสนใจ และใส่ใจในความยั่งยืน เชื่อว่าประโยชน์จากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ บริษัทพยายามจะเสริมสร้างควบคู่กับการปลูกฝังพนักงานภายในองค์กรของเราให้ตระหนักถึงความยั่งยืน และการจัดกิจกรรมนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เหล่าผู้บริหารได้มาทำกิจกรรมร่วมกับพนักงานเพื่อทำกิจกรรมภายนอกสถานที่ และแผนในอนาคตเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม CSR การปลูกต้นไม้ โดยจะมีการจัดขึ้นทุกๆ 6 เดือน และพวกเรายังมีกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากกิจกรรมปลูกต้นไม้ คือ การมีส่วนร่วมกับโรงงาน และชุมชนรอบข้างในการเก็บขยะบริเวณรอบๆ โรงงานของเรา
Mr.Ove Johnny Borgsø กล่าวอีกว่า อย่างที่ทราบกันดีเกี่ยวกับโรงงานของ ‘อีคอร์เนส (ไทยแลนด์)’ เป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดของ อีคอร์เนส กรุ๊ป ฉะนั้น ในการดำเนินงานหรือแม้กระทั่งการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อนำไปสู่การเติบโตของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นเจาะกลุ่มตลาด High-End ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สิ่งสำคัญกระบวนการผลิต รวมไปถึงวัตถุที่นำมาใช้ในการผลิต จนออกมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ดีมีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล บริษัทจึงวางเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เพื่อที่จะนำพาให้ บริษัท อีคอร์เนส (ไทยแลนด์) จำกัด มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางด้านการผลิตในภูมิภาคเอเชียทั้งหมด เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของบริษัทที่ต้องการเป็น Hub ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
“อยากฝากถึงหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยากให้ช่วยสนับสนุนด้านการลงทุนและการส่งเสริมการเรียนการสอนด้านภาษาเพิ่มขึ้น เนื่องจากการสรรหาบุคลากรที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เชี่ยวชาญค่อนข้างหายาก ซึ่งเมื่อคนไทยมีความพร้อมด้านภาษา เชื่อว่าจะสร้างโอกาส หรือประโยชน์ทางธุรกิจ การจ้างงาน รวมถึงสามารถดึงเม็ดเงินเข้าประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น” Mr.Ove Johnny Borgsø กล่าวทิ้งท้าย




Mr.Ove Johnny Borgsø กล่าวถึงมาตรฐานการผลิตของโรงงาน ว่า บริษัทได้ผ่านการรับรองมาตรฐานสากลต่างๆ อาทิ มาตรฐานของระบบบริหารคุณภาพ (Quality Management System) หรือ ISO 9001 : 2015, มาตรฐาน Forest Stewardship Council ที่ได้รับการตรวจสอบตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ที่มีการบริหารจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ
รวมทั้ง มาตรฐาน Customs and Trade Partnership Against Terrorism (C-TPAT) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้ผ่านการรับรอง โดยเรายังใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม และการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อีกทั้งอยู่ระหว่างการเตรียมที่จะทำมาตรฐาน การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (ISO 14000) เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม (Environmental aspects) ขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการป้องกันมลพิษต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจขององค์กร
นอกจากมาตรฐานด้านการผลิตแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญต่อการจัดกิจกรรม CSR ซึ่งเราได้จัดกิจกรรมฟื้นฟูธรรมชาติด้วยการพาพนักงานไปจัดกิจกรรมปลูกป่า เนื่องจากเราเป็นบริษัทที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ เมื่อผลิตเก้าอี้ 100 ตัว เราจะทำการปลูกต้นไม้ 1 ต้น เพื่อคืนให้กับสังคมในทุกๆ ครั้งของการจัดกิจกรรม
ล่าสุด บริษัท อีคอร์เนส (ไทยแลนด์) จำกัด ได้จัดกิจกรรมปลูกป่า ภายใต้ชื่อโครงการ “Ekornes Family : One team One goal & 1 tree for 100 seats” ที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ขญ.10 ประจันตคาม) จังหวัดปราจีนบุรี ร่วมปลูกต้นกล้า คืนป่าให้ธรรมชาติ ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเดินหน้าในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ต้นทางจัดหาวัตถุดิบถูกกฎหมายและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างคุ้มค่า พร้อมปลูกฝังพนักงานในองค์กร โรงงาน และชุมชน สร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน




เจาะลึก ข่าวจริง ยิงประเด็นข่าวสร้างสรรค์
ส่งตรงและเข้าถึงผู้ประกอบการทั่วประเทศ




ปัจจุบัน บริษัท อีคอร์เนส (ไทยแลนด์) จำกัด ถือว่าเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุด อีคอร์เนส กรุ๊ป โดยมีพนักงานรวมทั้งหมด 1,160 คน เรียกได้ว่าจำนวนพนักงานและเจ้าหน้าที่มากที่สุดของ อีคอร์เนส กรุ๊ป ก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจจะประสบปัญหาในเรื่องการแข่งขันของราคาผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดค่อนข้างสูง แต่หลังจากในปี 2020 ทางบริษัทได้เซ็นสัญญาคู่ค้ากับบริษัท Costco ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทธุรกิจขายส่งและขายปลีกสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา
โดยภายหลังจากที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Costco และคู่ค้ารายใหญ่อื่นๆ ส่งผลให้โรงงานของเราได้มีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว รวมถึงการขยายตลาดไปยังประเทศจีน และกลุ่มตลาดในเอเชียเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้ถือเป็นกลุ่มตลาดใหม่ของบริษัท และถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของบริษัท อีคอร์เนส (ไทยแลนด์) จำกั ด เป็นก้าวที่สำคัญและเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของการดำเนินธุรกิจ